ปัจจุบันคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะคนเมือง ที่นิยมกินอาหารประเภทที่มีไขมัน และน้ำตาลสูง และยังใช้เวลาทำงานส่วนใหญ่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ วันละหลายชั่วโมง ทำให้เกิดการขยับตัวน้อย ทำงานหนัก นอนดึก และไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย ทำให้หลายคนมีปัญหาด้านสุขภาพรุมเร้ามากมายตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งรวมถึงการมีน้ำหนักตัวที่สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม จึงทำให้ปัญหาเหล่านี้ถูกสะสมจนก่อให้เกิดโรคเรื้อรังในระยะยาวได้ หรืออาจกลายเป็นโรคอ้วน คือ ภาวะที่ร่างกายมีการสะสมไขมันมากเกินกว่าปกติ หรือมากเกินกว่าที่ร่างกายจะเผาผลาญ จึงสะสมพลังงานที่เหลือเอาไว้ในรูปของไขมันตามอวัยวะต่างๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาด้านสุขภาพ และเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ตามมา

โรคอ้วนเสี่ยงต่อการเกิดโรคอะไรบ้าง?
เมื่อร่างกายของคนเรามีการสะสมของไขมันในส่วนต่างๆมากกว่าปกติ นอกจากจะทำให้สูญเสียความมั่นใจในรูปร่างแล้วนั้น โรคอ้วน และภาวะอ้วนลงพุง ส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ในหลาย ๆ ส่วน บางโรคอาจจะแสดงอาการให้เห็นชัดเจน ในขณะที่บางโรคก็อาจไม่แสดงอาการภายนอกแต่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว
ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคร้าย หรือโรคเรื้อรังต่าง ๆ ตามมาได้ในอนาคต เช่น
โรคหัวใจ และหลอดเลือด
โรคหัวใจ และหลอดเลือดโดยตรง เนื่องจากระดับของไขมันคอเลสเตอรอล และไขมันสะสมในร่างกายสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ผนังหลอดเลือดแดงแข็ง และหนาตัว ขึ้น เพราะมีมีไขมันเกาะอยู่ภายในผนังหลอดเลือด ซึ่งจะค่อยๆ พอกตัวขึ้นทีละน้อย ทำให้หลอดเลือดแดงจึงตีบแคบ เลือดไหลเวียนได้น้อย และเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันในที่สุด หรืออาจพัฒนากลายเป็นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายได้ และส่งผลให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด ไตวาย อัมพาต อัมพฤกษ์ได้
โรคหลอดเลือดสมอง
เป็นโรคที่เกิดจาดหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นทั้งหลอดเลือดสมองแตกทำให้เกิดการคั่งของเลือดในสมอง และหลอดเลือดสมองตีบทำให้สมองขาดเลือด โดยสาเหตุมาจากการที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ และเส้นเลือดจะค่อยๆ ตีบลงเหลือรูให้เลือดผ่านได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากมีลิ่มเลือดจากส่วนอื่นๆ ไหลไปปิดกั้นทางเดินของหลอดเลือดที่จะไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองขาดเลือดแบบทันทีหรือที่เราเรียกว่า สโตรก(Stroke) หรือโรคหลอดเลือดสมอง อาจจะทำให้สมองพิการถาวร หรือเป็นอัมพาตได้ หากรุนแรงก็อาจจะทำให้เสียชีวิต
โรคความดันโลหิตสูง
ปัจจุบันโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากขึ้น โดยเฉพาะในวัยทำงาน ประกอบกับสาเหตุที่ส่งเสริมให้เกิดโรคนี้มีหลายปัจจัย ทั้งอายุ เพศ รวมไปถึงความอ้วน การที่เรามีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น อาจเป็นผลทำให้ระดับความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นจากปกติ ส่งผลให้มีการเพิ่ม และขยายตัวของผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดการฉีกขาดเป็นอันตรายต่ออวัยวะต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นจอประสาทตา, หัวใจ, สมอง รวมถึงไตด้วย จากสิ่งเหล่านี้ ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่มักไม่ค่อยแสดงอาการ กว่าจะรู้ตัวก็อยู่ในระดับที่รุนแรงแล้ว ทำให้เกิดโรคอื่นๆตามมา เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เสี่ยงเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เสี่ยงหัวใจวาย ภาวะไตวายเรื้อรัง หลอดเลือดสมองตีบ หรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
โรคไขมันในเลือดสูง
ไขมันในเลือดสูง คือการที่ร่างกายมีไขมันในเลือดมากผิดปกติ เกิดจากอาหารที่รับประทานอุดมไปด้วยไขมัน และคอเรสเตอรอล เช่น อาหารรสจัด ของมัน ของทอด ของหวานต่าง ๆ ฯลฯ ทำให้เส้นเลือดต่าง ๆ โดยเฉพาะเส้นเลือดหัวใจ และเส้นเลือดสมองมีคราบไขมันเกาะ ซึ่งการเกาะสะสมของไขมันนั้นทำให้หลอดเลือดตีบและแคบลง ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดผ่านไปสู่อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำได้ยากขึ้น ยิ่งทำให้เส้นเลือด หัวใจตีบ หลอดเลือดไหลเวียนไม่เพียงพอ
โรคเบาหวาน
ความอ้วน เป็นปัจจัยหนึ่งของความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวาน เพราะการกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต และไขมันมากเกินไป ซึ่งคาร์โบไฮเดรตและไขมันจะถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาล ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง พบว่าในคนที่เป็นโรคอ้วน มีอินซูลินที่หลั่งจากตับอ่อนอาจออกฤทธิ์ไม่ดีเท่ากับคนทั่วไป ส่งผลให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน คือ ทำให้เนื้อเยื่อตอนปลายตอบสนองต่ออินซูลินได้น้อยลง เบตาเซลล์ไม่ทำงาน ไขมันในเลือดสูง ทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับระบบการเผาผลาญได้ง่าย (Metabolic Syndrome) และหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ในระยะยาวอาจส่งผลให้หลอดเลือดถูกทำลาย และนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนของโรคอื่นที่รุนแรงตามมาได้ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมอง โรคไตวายเรื้อรัง รวมถึงโรคอัมพฤกษ์อัมพาตจากเส้นเลือดในสมองแตก ฯลฯ

โรคไขมันพอกตับ
โรคนี้เกิดจากการรับประทานมากเกินไปเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดไขมันก่อตัวขึ้นในตับ เมื่อตับไม่ได้นำไขมันไปใช้ หรือย่อยสลายอย่างที่ควรจะเป็นก็อาจเกิดการสะสมไขมันขึ้น โดยร้อยละ 20 ของคนที่เป็นโรคอ้วนจะมีโรคไขมันพอกตับร่วมอยู่ด้วย โรคนี้ส่วนใหญ่ที่เป็นในระยะแรกๆนั้นไม่แสดงอาการ หรือหากมีอาการก็อาจเป็นอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจงมากพอที่จะบ่งบอกโรคได้ เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ฯลฯ การตรวจพบโรคไขมันพอกตับจึงมักพบในผู้ป่วยที่เข้ารับการเจาะเลือดตรวจสุขภาพ โดยโรคไขมันพอกตับเกิดจากสมดุลของการสร้างกรดไขมันอิสระในร่างกายที่เสียไป ทำให้ตับบวม เพราะมีไขมันสะสมอยู่มากจากนั้นจะมีการอักเสบเรื้อรัง และเกิดพังผืดภายในตับส่งผลให้เกิดภาวะตับแข็งในที่สุด
โรคหยุดหายใจขณะหลับ
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเกิดจากการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบน และมีอาการนอนกรนร่วมด้วย โดยในคนอ้วนจะเริ่มมีการหย่อนคล้อยในคอลำคอและช่องทางเดินหายใจ ลิ้นโต คับปาก ซึ่งเมื่อนอนหลับ กล้ามเนื้อบริเวณคอจะคลายตัว ส่งผลให้อวัยวะที่มีขนาดโต หรือมีไขมันสะสมในผนังลำคอมากขึ้น ผนังลำคอจึงหนา และมีลักษณะลำคอหดสั้นมากขึ้น ช่องลำคอจึงแคบลง กดทับทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการหยุดหายใจขณะหลับได้นั่นเอง สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา จากการหยุดหายใจขณะหลับ คือ อาการสะดุ้งตื่นขณะหลับทำให้นอนหลับได้ไม่สนิท คุณภาพการนอนแย่ลง เมื่อตื่นนอนจะรู้สึกไม่สดชื่น อ่อนเพลีย ขาดความกระตือรือร้น หากเป็นโรคความดันสูงร่วมด้วยจะทำให้อาการเป็นหนักมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นการนอนหลับแบบไม่ปกติ มีผลทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนเรื้อรัง รวมถึงเกิดการหลั่งสารที่มีผลต่อการบีบตัวของหลอดเลือด ส่งผลกระทบต่อการเต้นของหัวใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้
โรคมะเร็งต่างๆ
โรคอ้วนเป็นปัจจัยเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งเต้านม ต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ใหญ่
ภาวะมีบุตรยาก
- ผู้ชายที่เป็นโรคอ้วน
- มีผลต่อความแข็งแรงของสเปิร์ม ต้องลดน้ำหนัก จึงจะช่วยให้สเปิร์มมีความแข็งแรงมากขึ้น
- มีการสร้างเซลล์ใหม่ เพื่อทดแทนเซลล์เก่าได้ช้าลง รวมถึงเซลล์สเปิร์ม หากมีภาวะอ้วนจะทำให้การทดแทนเซลล์สเปิร์มตัวเก่าทำได้ช้าลง
- คนอ้วน จะมีอุณหภูมิร่างกายมากกว่าคนปกติ ซึ่งหากอุณหภูมิในร่างกายสูง จะทำให้คุณผู้ชายผลิตสเปิร์มได้น้อยลง การเคลื่อนไหวของสเปิร์มน้อยลง
- มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเบาหวาน ทำให้เส้นเลือดที่จะไปเลี้ยงบริเวณลูกอัณฑะน้อยลง ส่งผลให้การผลิตสเปิร์มทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
- ผู้หญิงที่เป็นโรคอ้วน
- ผู้หญิงที่เป็นโรคอ้วน จะมีความเสี่ยงต่อการมีบุตรยาก 3 เท่าของหญิงที่มีน้ำหนักปกติ และพบว่าทุกๆ 1 หน่วย BMI (ดัชนีมวลกาย) ที่เพิ่มขึ้นของคนที่มี BMI 29 ขึ้นไปจะลดโอกาสการมีลูก 5%
- ผู้หญิงที่มีภาวะอ้วน จะมีฮอร์โมนเพศชายสูงมากกว่าปกติ ส่งผลทำให้ฮอร์โมนรังไข่ผิดปกติ จึงทำให้ไข่ไม่ตก
- คุณภาพของไข่แย่ลง
- ประจำเดือนขาดหายหรือมาไม่ปกติ ทำให้ไข่ตกคลาดเคลื่อน
- ผู้หญิงน้ำหนักเกินมีความเสี่ยงเป็นโรคภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ PCOS หรือ ( Polycystic Ovarian Syndrome ) มักพบในผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกิน ซึ่งทำให้มีบุตรยาก เนื่องจากภาวะไม่ตกไข่เรื้อรัง
- หากทำการรักษาภาวะมีบุตรยาก ผู้หญิงทีมีภาวะโรคอ้วน จะทำให้ใส่ตัวอ่อนยากกว่า ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์ลดลง
- หากตั้งครรภ์มีโอกาสแท้งบุตรในช่วง 3 เดือนแรก หรืออาจทำให้เกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ครรภ์เป็นพิษ ทารกเติบโตช้าขณะอยู่ในครรภ์
ประจำเดือนมาไม่ปกติ
โรคอ้วนอาจส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ขาดประจำเดือนไปได้คราวละหลาย ๆ เดือน เนื่องจากในคนอ้วนผิวหนังสามารถเปลี่ยนเซลล์ไขมันไปเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งมีผลต่อการหลั่งฮอร์โมน FSH และฮอร์โมน LH ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
โรคข้อเสื่อม
โรคอ้วน ส่งผลโดยตรงต่อน้ำหนักที่ลงข้อต่อหลายแห่งมากกว่าคนไม่อ้วน เพราะต้องแบกรับน้ำหนักที่มากขึ้น ข้อต่อตามส่วนต่างๆของร่างกาย ทั้งหลัง สะโพก หรือหัวเข่า มีผลให้กระดูกอ่อนซึ่งทำหน้าที่ป้องกันข้อต่อค่อยๆ เสื่อมสภาพลงเร็วขึ้น เกิดแรงกดทับบริเวณกระดูกข้อต่อ ทำให้มีอาการปวด ซึ่งคือหนึ่งในสาเหตุของโรคข้อเสื่อมได้

โรคผิวหนัง เช่น สิว ขนดก มีกลิ่นตัว
โรคผิวหนังที่พบได้บ่อยๆในคนไข้โรคอ้วน สาเหตุล้วนเกิดจากการมีการสะสมไขมันในร่างกายมากกว่าปกติ หรือ โรคอ้วน ได้แก่
- โรคผิวหนังช้าง (Acanthosis Nigricans) เป็นร่องรอยโรคผิวหนังที่มีลักษณะ เป็นปื้นดำหนาขรุขระดูคล้ายผ้ากำมะหยี่ พบบ่อยที่บริเวณซอกพับของร่างกาย บางครั้งจะมีติ่งเนื้อ จำนวนมากขึ้นควบคู่ไปกับปืนดำ เช่น รักแร้หลังคอ ข้อพับแขน หากเป็นมากอาจพบที่บริเวณใดก็ได้ เช่น ใบหน้า และหลังมือซึ่งบ่งบอกถึงความผิดปกติ หรือ ดื้อต่อฮอร์โมน Insulin
- โรคขนคุด (Keratosis pilaris) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแข็งบนรูขน คลำแล้วรู้สึกผิวสาก ไม่เรียบ พบมากบริเวณแขนขาทั้งสองข้าง บางรายมีขนดก เส้นขนยาวขึ้นและมีสีเข้ม เป็นสิว
- โรคที่เกี่ยวกับเซลลูไลท์ หรือ ผิวหนังแตกลาย รวมไปถึงผิวหนังขรุขระคล้ายเปลือกส้ม พบมากที่ต้นขา ขั้นท้าย และหน้าท้อง
- โรคติดเชื้อบริเวณซอกพับ เช่น เชื้อราในร่มผ้าอันเนื่องมาจากความอับขึ้น เกิดผื่นผิวหนังอักเสบที่ซอกผับ เช่น บริเวณขาหนีบใต้ราวนม
- โรคติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังชนิดต่าง ๆ ตั้งแต่ต่อมขนอักเสบ ไปจนถึงติดเชื้อลามลึกเข้าไปยังเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง
- โรคสะเก็ดเงิน คนที่อ้วน และเป็นโรคเบาหวาน มีโอกาสเป็นโรคสะเก็ดเงินได้มากขึ้น ถึงแม้จะไม่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต แต่อาจส่งผลกระทบต่ออาการทางข้อจนทำให้ข้อบิดเบี้ยว เสียรูป จึงต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคข้อควบคู่กันด้วย
- มักมีกลิ่นตัวแรงกว่าคนที่ผอม เพราะคนอ้วนมีโอกาสที่อวัยวะภายนอกมีส่วนอับชื้น สร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตามรักแร้ ชั้นพุง ขาหนีบ มากกว่าคนผอม และต่อมเหงื่อยังผลิตเหงื่อมากกว่าคนที่ผอมอีกด้วย
กรดไหลย้อน
ไขมันที่หน้าท้องที่เพิ่มมากขึ้นนำมาซึ่งความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคกรดไหลย้อน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการดันในช่องท้อง และความดันในกระเพาะอาหารสูงขึ้น ทำให้กรดและอาหารที่กำลังย่อยในกระเพาะอาหารไหลทวนย้อนกลับเข้าสู่หลอดอาหาร และมีส่วนทำให้ลำไส้เคลื่อนที่มาดันที่กระเพาะอาหาร หรือบางท่านที่เป็นโรคอ้วนมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) ที่เพิ่มมากขึ้น เป็นสาเหตุทำให้กรดไหลย้อนขึ้นมา
ภาวะไอ จาม ปัสสาวะเล็ด
เกิดจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานที่คอยพยุงท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะหย่อนยาน สามารถเกิดขึ้นได้จากภาวะผิดปกติของร่างกายด้านต่าง ๆ รวมถึงโรคอ้วนด้วย เมื่อขาดตัวช่วยพยุงท่อปัสสาวะเมื่อเวลาไอหรือจาม ท่อปัสสาวะเปิดตัวทำให้ปัสสาวะเล็ดออกมา
ไตทำงานหนัก
คนอ้วนมักกินอาหารเยอะเป็นพิเศษ ไตจึงต้องทำงานหนักเพื่อกำจัดของเสียต่างๆ นอกจากนี้คนอ้วนยังมีความเสี่ยงในการเป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้ต้องกินยาเป็นประจำ ซึ่งยาเหล่านั้นอาจส่งผลกระทบต่อไตได้
นิ่วในถุงน้ำดี และนิ่วในไต
พบว่าคนอ้วนมักมีนิ่วในถุงน้ำดี และนิ่วในไตบ่อย เกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารด้วยนั่นเอง เพราะมีลักษณะของนิ่วที่เกิดขึ้นล้วนเกี่ยวข้องกับอาหารที่มีไขมันสูง ทำให้การสะสมของไขมัน และคอเรสเตอรอล เกินกว่าการทำงานของร่างกายสะสมจนกลายเป็นก้อนนิ่วได้ในที่สุด จึงควรเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยลดการเกิดตะกอนที่ทำให้เกิดนิ่ว
โรคติดเชื้อโควิด-19 ที่มีความรุนแรง
ผู้เป็นโรคอ้วน หรือคนอ้วน เมื่อได้รับเชื้อโควิด -19 เชื้อจะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบขึ้นในร่างกาย และมีโอกาสในการเกิดโรคที่รุนแรงกว่าคนทั่วไป เนื่องจากการที่ปอดทำงานลดลง ภูมิคุ้มกัน T cell ทำงานน้อยกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดลิ่มเลือดในปอดได้ง่ายขึ้น รวมทั้งในคนอ้วนจะมีเซลล์ไขมันในร่างกาย ซึ่งสามารถรับเชื้อโควิด-19 ในปอดได้มากกว่า ทำให้ปอดอักเสบรุนแรงกว่า และมักจะมีโรคอื่นร่วมด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไขมันพอกตับ โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเชื้อโควิดจะเป็นตัวกระตุ้นให้การอักเสบรุนแรงมากขึ้น และลุกลามไปยังอวัยวะต่างๆ เช่น ไตวาย หัวใจล้มเหลว ปอดล้มเหลว และอาจทำให้เสียชีวิตได้
ตรวจโรคอ้วน ที่ภูเก็ตตรวจได้ที่ไหน?
ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก ให้บริการที่ใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทั้งทีมงานที่มีความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและ การรักษา โดยคุณสามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง walk-in หรือนัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ
ช่องทางการติดต่อ
สาขาลากูน่า
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาลากูน่า ตั้งอยู่ที่ 58/1 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83100
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 21.00 น.
- สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ 096 236 2449
- แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/SXaeLrSU9Lx47YPH6
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://pmclaguna.youcanbook.me
สาขาในเมือง
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ 41/7-41/8 ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 20.00 น.
- สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ 096 288 2449
- แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/yeU9qNArGg3qdwZw9
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://pmctown.youcanbook.me
สาขาหอนาฬิกา
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาหอนาฬิกา 206/8 ถ. ภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 10.00- 20.00น. (ช่วงเเรก)
- สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ 096 696 2449
- แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/svPvTabmmD1DHe9v9
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me