โรคหนองในเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดขึ้นจากการรับเชื้อแบคทีเรียผ่านการมีเพศสัมพันธ์ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมูกใสหรือหนองที่บริเวณอวัยวะเพศ หนองในเทียมอาจไม่ปรากฏอาการที่ชัดเจนในผู้ป่วยบางราย และ เป็นโรคที่พบมากในวัยรุ่น สามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งเพศชายและเพศหญิง และมักจะก่อให้เกิดการทำลายระบบอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิงอย่างมาก จนอาจทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก

ภาวะแทรกซ้อนจากการเป็นหนองในเทียม
ภาวะแทรกซ้อนของหนองในเทียมจะแสดงอาการแตกต่างกันออกไปตามเพศของผู้ป่วย โดยมีลักษณะดังต่อไปนี้
ภาวะแทรกซ้อนในเพศชาย
- อัณฑะอักเสบหรือต่อมลูกหมากติดเชื้อ หนองในเทียมในเพศชายสามารถแพร่กระจายไปที่ลูกอัณฑะ หลอดเก็บน้ำอสุจิ และต่อมลูกหมาก ทำให้มีอาการปวดหรือบวม มีไข้หนาวสั่น เจ็บที่อวัยวะเพศขณะปัสสาวะ ปัสสาวะแสบขัด ปวดเอว และเกิดอาการปวดในระหว่างหรือหลังมีเพศสัมพันธ์ อาการนี้สามารถรักษาด้วยการรับประทานยาปฏิชีวนะ แต่ถ้าปล่อยไว้ไม่ทำการรักษาอาจส่งผลเสียต่อภาวะเจริญพันธุ์ทำให้มีบุตรยาก และอาจทำให้เป็นหมันได้ในอนาคต
- ข้ออักเสบ หรือที่รู้จักในชื่อ โรคไรเตอร์ หรือข้ออักเสบไรเตอร์ (Reiter Syndrome) โรคหนองในเทียมเป็นสาเหตุหลักที่พบบ่อยของโรคไขข้ออักเสบ โดยจะเป็นบริเวณข้อต่อ ตา หรือท่อ หลังจากเป็นหนองในเทียมในช่วงไม่กี่สัปดาห์ อาจมีอาการตามมาด้วยคือข้ออักเสบ รวมไปถึงทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือตาอักเสบ อาการนี้สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาแก้อักเสบชนิดไม่ใส่สเตียรอยด์ จำพวกไอบูโปรเฟน ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด โดยส่วนมากแล้วอาการนี้จะเกิดในเพศชาย แต่ก็สามารถเกิดในเพศหญิงได้เช่นเดียวกัน
ภาวะแทรกซ้อนในเพศหญิง
- การติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานหรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ หนองในเทียมในเพศหญิงสามารถแพร่กระจายไปยังมดลูก รังไข่ หรือท่อนำไข่ได้ ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ปวดท้องน้อยขณะปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์ มีเลือดออกในขณะหรือหลังมีเพศสัมพันธ์ อาการเหล่านี้จะส่งผลทำให้เกิดภาวะการมีบุตรยาก ปวดอุ้งเชิงกรานเรื้อรัง ปวดท้องน้อยเรื้อรัง เพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูก นอกจากนั้นแล้ว ยังอาจเกิดโรคหรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ อาการนี้สามารถรักษาได้โดยการรับประทานยาปฏิชีวนะต่อเนื่องนาน 2 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะมีบุตรยาก
- ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ ในขณะตั้งครรภ์หากเป็นโรคหนองในเทียม มีโอกาสที่โรคจะสามารถแพร่ไปยังทารกในครรภ์ได้ ซึ่งอาจทำให้ทารกติดเชื้อนำไปสู่ภาวะเยื่อบุตาอักเสบ และปอดบวมได้ อีกทั้งอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนด หรือทารกมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์ได้ด้วย
ทั้งสองเพศ อาจทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบได้ แต่จะพบได้น้อยมาก ในบางรายอาจเกิดกลุ่มอาการไรเตอร์ (Reiter’s syndrome) ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการหนองไหลออกจากท่อปัสสาวะร่วมกับข้ออักเสบและเยื่อตาขาวอักเสบ นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคหนองในเทียมที่ไม่ได้รับการรักษา ยังอาจทำให้ติดเชื้อเอชไอวีได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วยเมื่อได้รับการสัมผัสเชื้อในช่วงเวลาดังกล่าว
การป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรคหนองในเทียม
เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคหนองในเทียม ควรรู้จักป้องกันและดูแลสุขภาวะทางเพศให้สะอาดและปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ดังนี้
- ใช้ถุงยางอนามัย ใส่ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทั้งทางอวัยวะเพศหรือทางทวารหนัก
- ใช้ถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชายหรือถุงครอบปาก (dental dam) ซึ่งมีลักษณะเป็นยางบางๆรูปสี่เหลี่ยมสำหรับผู้หญิงเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทางปาก
- ควรตรวจอย่างละเอียดว่าได้ล้างเซ็กซ์ทอย (sextoy) หรือเปลี่ยนถุงยางอนามัยที่ใช้กับเซ็กซ์ทอย(sextoy)แล้วก่อนใช้กับคนใหม่ และการลดจำนวนคู่นอนก็สามารถหลีกเลี่ยงโรคหนองในเทียมได้
- ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีคู่นอนเพียงคนเดียว การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยอาจเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้
- หลีกเลี่ยงการสวนล้าง โดยเฉพาะในช่องคลอดซึ่งมีเชื้อแบคทีเรียชนิดดี หากสวนล้างบ่อยเกินไปอาจทำให้จำนวนแบคทีเรียชนิดดีลดลง และอาจเพิ่มโอกาสการติดเชื้อได้
- ควรดื่มน้ำ ก่อนร่วมเพศและถ่ายปัสสาวะทันทีหลังร่วมเพศ หรือฟอกล้างสบู่ทันทีหลังร่วมเพศอาจช่วยลดการติดเชื้อลงได้บ้าง แต่ไม่ใช่ว่า จะได้ผลทุกราย
- ตรวจคัดกรองโรค หากมีพฤติกรรมเสี่ยง หรือมีการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ให้ตรวจคัดกรองโรคทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำเพื่อป้องกันการติดโรค หรือหากติดเชื้อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
- หนองในเทียมจะไม่ติดต่อผ่านการจูบ การกอด การใช้ช้อนส้อม การใช้สระว่ายน้ำ การใช้ห้องน้ำหรือห้องอาบน้ำร่วมกับผู้ป่วย
- หากมีอาการที่บ่งชี้ว่ากำลังเป็นโรคหนองในเทียม หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ควรงดการมีเพศสัมพันธ์และรีบไปพบ แพทย์เพราะหากผลตรวจออกมาพบว่าเป็นโรคหนองในเทียม และผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ก็จะช่วยป้องกันการเกิดภาวะ แทรกซ้อนดังที่กล่าวมาได้
- นอกจากนี้ยังต้องแจ้งให้คู่นอนที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยภายในช่วง 60 วันที่ผ่านมาได้ทราบเพื่อเข้ารับการตรวจรักษา ที่เหมาะสมจนกว่าจะหายดีก่อนที่จะเริ่มมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง
ตรวจโรคหนองในเทียม ที่ภูเก็ตตรวจได้ที่ไหน?
ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก ให้บริการที่ใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทั้งทีมงานที่มีความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและ การรักษา โดยคุณสามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง walk-in หรือนัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ
ช่องทางการติดต่อ
สาขาลากูน่า
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาลากูน่า ตั้งอยู่ที่ 58/1 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83100
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 21.00 น.
- สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ 096 236 2449
- แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/SXaeLrSU9Lx47YPH6
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://pmclaguna.youcanbook.me
สาขาในเมือง
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ 41/7-41/8 ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 20.00 น.
- สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ 096 288 2449
- แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/yeU9qNArGg3qdwZw9
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://pmctown.youcanbook.me
สาขาหอนาฬิกา
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาหอนาฬิกา 206/8 ถ. ภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 10.00- 20.00น. (ช่วงเเรก)
- สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ 096 696 2449
- แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/svPvTabmmD1DHe9v9
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me