อหิวาตกโรค

อหิวาตกโรค หรือสมัยอดีตเรียกว่า โรคห่า เป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยในอดีตเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันที่การแพทย์นั้นมีความเจริญก้าวหน้า ก็ได้มียารักษาจนโรคนี้ค่อย ๆ หายไปจากความสนใจของคนในยุคใหม่ แต่แท้จริงแล้ว โรคนี้ยังไม่ได้หายไปไหน จึงเป็นสาเหตุที่เราต้องทำความรู้จักโรคนี้เอาไว้ เพื่อป้องกันโรค

อหิวาตกโรคสามารถติดต่อสู่คนได้ทุกเพศทุกวัย เป็นโรคที่มักพบการระบาดในพื้นที่ที่การจัดการด้านสุขาภิบาลไม่ดี โดยส่วนใหญ่สาเหตุของการแพร่ระบาดมาจากการดูแลสุขอนามัยที่ไม่เหมาะสม เช่น การไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการเข้าห้องน้ำ การประกอบอาหาร หรือการรับประทานอาหาร รวมถึงการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ถูกสุขลักษณะด้วย

อหิวาตกโรค

อหิวาตกโรคคืออะไร?

อหิวาตกโรค (CHOLERA) เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงและสามารถระบาดได้อย่างรวดเร็ว  โดยมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ปนอยู่ในอุจจาระ หรือ อาเจียน ของผู้ที่เป็นพาหะ กระจายไปสู่สิ่งแวดล้อม ปนเปื้อนในอาหาร น้ำดื่ม และมักจะเกิดในชุมชนที่อยู่กันอย่างหนาแน่น และในถิ่นที่ไม่มีน้ำสะอาดใช้อย่างพอเพียง ไม่มี ส้วมที่ถูกสุขลักษณะ มีการสุขาภิบาลไม่ดี เช่น มีการทิ้งขยะเกลื่อนกลาด ร้านอาหารไม่สะอาด ถูกหลักสุขาภิบาล โดยมีแมลงวันเป็นพาหะ 

ผู้ติดเชื้อสามารถได้รับเชื้อจากการรับประทานอาหาร ที่มีเชื้อแบคทีเรียปะปนอยู่ เช่น รับประทานอาหาร สุกๆดิบๆ หรือ อาหารที่มีแมลงวันตอม จนทำให้เกิดอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำและอาเจียนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็วจนนำไปสู่การเกิดภาวะขาดน้ำ ในกรณีที่รุนแรงอาจเกิดอาการช็อคและเสียชีวิตได้

สาเหตุอหิวาตกโรค

อหิวาตกโรค เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า วิบริโอ โคเลอรี (Vibrio Cholerae) โดยแบคทีเรียจะผลิตสารชีวพิษซิกัวทอกซิน (Ciguatoxin: CTX) ขึ้นในลำไส้เล็ก สารชีวพิษนี้จะเกาะที่ผนังลำไส้และรวมกับโซเดียมหรือคลอไรด์ที่ไหลผ่านลำไส้ และเกิดการกระตุ้นร่างกายให้ขับน้ำออกจากตัว จนนำไปสู่อาการท้องร่วง รวมทั้งการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในเลือดอย่างกะทันหัน

แบคทีเรียวิบริโอ โคเลอรี หรือเชื้ออหิวาต์ มักพบในอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนสิ่งปฏิกูลหรืออุจจาระของคนซึ่งมีเชื้อนี้อยู่ในนั้น แหล่งที่สามารถพบการติดเชื้อและแพร่ระบาดของโรคจึงมักมาจากน้ำ อาหารบางชนิด อาหารทะเล ผักผลไม้สด และธัญพืชต่าง ๆ  หรือมีปัจจัยบางอย่างที่กระตุ้นให้ร่างกายติดเชื้ออหิวาต์ได้ง่ายขึ้น ดังรายละเอียดต่อไปนี้

  • แหล่งน้ำ เชื้ออหิวาต์ สามารถลอยอยู่บนผิวน้ำได้เป็นระยะเวลานาน โดยแหล่งน้ำสาธารณะที่ได้รับการปนเปื้อนจากเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ถือเป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรคชั้นดี ผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดและปราศจากการจัดการด้านสุขาภิบาลที่ดีอย่างเพียงพอจึงเสี่ยงป่วยเป็นอหิวาตกโรคได้
  • อาหารทะเล การรับประทานอาหารทะเลดิบหรือไม่ได้ปรุงสุก โดยเฉพาะอาหารทะเลจำพวกหอย ซึ่งเกิดในแหล่งน้ำที่น้ำปนเปื้อนสารพิษนั้น จะทำให้ร่างกายได้รับเชื้ออหิวาต์
  • ผักและผลไม้สด พื้นที่ที่อหิวาตกโรคระบาดในท้องถิ่นนั้น ผักและผลไม้สดที่ไม่ได้ปอกเปลือกมักเป็นแหล่งเพาะเชื้ออหิวาต์ สำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่มีการใช้ปุ๋ยคอกที่ไม่ได้หมักหรือแหล่งน้ำเน่า ผลิตผลที่ปลูกอาจปนเปื้อนเชื้ออหิวาต์ได้
  • ธัญพืชต่าง ๆ สำหรับพื้นที่ที่อหิวาตกโรคระบาดนั้น การปรุงอาหารด้วยธัญพืชอย่างข้าวหรือข้าวฟ่างอาจได้รับเชื้ออหิวาต์ปนเปื้อนหลังจากปรุงเสร็จ และเชื้อจะอยู่ในอาหารอีกหลายชั่วโมงที่อุณหภูมิระดับห้อง โดยเชื้อที่ยังคงอยู่จะกลายเป็นพาหะทำให้เกิดการเจริญเติบโตของของเชื้ออหิวาต์
  • การจัดการสุขาภิบาลไม่ดี เนื่องจากอหิวาตกโรคจะเกิดการติดเชื้อและแพร่ระบาดผ่านทางน้ำ หากพื้นที่ใดมีการจัดการระบบสุขาภิบาลไม่ดี จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคได้ง่าย โดยพื้นที่ที่มักประสบภาวะการจัดการสุขาภิบาลไม่ดีมักเกิดขึ้นในค่ายลี้ภัย ประเทศหรือพื้นที่ที่ประสบภาวะอดอยาก ขาดแคลนอาหาร เกิดสงคราม หรือประสบภัยทางธรรมชาติ
  • ภาวะไม่มีกรดในกระเพาะอาหาร (Hypochlorhydria/Chlorhydria) เชื้ออหิวาต์ไม่สามารถอยู่ได้ในภาวะที่มีกรด ทั้งนี้ กรดในกระเพาะอาหารของคนเราถือเป็นด่านปราการชั้นแรกที่ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ แต่สำหรับผู้ที่มีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ อย่างเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ใช้ยาลดกรดหรือยายับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร จะไม่มีกรดมาป้องกันเชื้ออหิวาต์ จึงเสี่ยงเป็นอหิวาตกโรคได้สูง
  • การอยู่ร่วมกับผู้ที่ป่วยเป็นอหิวาตกโรค ผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้ที่ป่วยเป็นอหิวาตกโรคมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้
  • อหิวาตกโรคสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่อาจมีข้อยกเว้นบางกรณี โดยแม่ที่ให้นมลูกด้วยตัวเองและเคยป่วยเป็นอหิวาตกโรคมาก่อนนั้น จะทำให้ทารกไม่ติดเชื้ออหิวาต์เนื่องจากได้รับภูมิคุ้มกันมาจากแม่แล้ว
อาการอหิวาตกโรค

อาการอหิวาตกโรค

อหิวาตกโรค ถือเป็นโรคที่มีเชื้อแบคทีเรียร้ายแรง โดยผู้ป่วยอาจมีอาการเล็กน้อยจนถึงขั้นรุนแรง ผู้ที่เป็นรุนแรงโรคจะเกิด ขึ้นทันทีและหนัก ทำให้เกิดอาการขาดนํ้า ขาดแร่ธาตุอย่างรวดเร็ว หากไม่ได้รับการรักษา อย่างทันท่วงทีผู้ป่วยอาจช็อคและถึงแก่กรรมได้ง่าย ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการท้องร่วงรุนแรงได้ ผู้ที่บริโภคอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อวิบริโอ โคเลอรี เข้าไปนั้น จะแสดงอาการของโรคภายใน 12 ชั่วโมง ถึง 5 วันหลังจากที่ลำไส้ได้ดูดซึมอาหารหรือน้ำปนเปื้อนที่บริโภคเข้าไป อย่างไรก็ตาม ผู้คนส่วนใหญ่ที่ได้รับเชื้อแบคทีเรียวิบริโอ โคเลอรี จะไม่ปรากฏอาการป่วยเป็นไข้หรืออาการอื่น เพราะเชื้อแบคทีเรียจะอยู่เฉพาะในอุจจาระเท่านั้น โดยเชื้อจะอยู่ในอุจจาระประมาณ 7-14 วันแล้วหายไปอยู่ตามสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายคนอื่นต่อไป

อาการอหิวาตกโรค มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • ท้องร่วง อาการท้องร่วงที่เกิดจากการติดเชื้ออหิวาต์นั้นจะเกิดขึ้นทันทีและอาจก่อให้เกิดการสูญเสียของเหลวในร่างกายซึ่งถือว่าอันตราย ผู้ป่วยอาจสูญเสียน้ำในร่างกายถึง 1 ลิตรภายใน 1 ชั่วโมง ลักษณะของอุจจาระจะเหมือนน้ำซาวข้าว โดยภายในอุจจาระมีเกล็ดสีขาวซึ่งเป็นเมือกหรือเนื้อเยื่อของกระเพาะอาหารขนาดเท่าเม็ดข้าว และอาจมีกลิ่นเหม็นคาว
  • คลื่นไส้และอาเจียน ผู้ป่วยอาจเกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนอยู่หลายชั่วโมง ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงแรกตามอาการของโรค
  • ประสบภาวะขาดน้ำ ผู้ป่วยสามารถเกิดอาการขาดน้ำได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดอาการของโรค โดยอาการขาดน้ำนี้จะรุนแรงแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยสูญเสียของเหลวในร่างกายไปมากน้อยเท่าไหร่ หากผู้ป่วยสูญเสียน้ำในร่างกายไป 10 เปอร์เซ็นต์หรือมากกกว่านั้นของน้ำหนักตัว ก็สามารถเกิดอาการขาดน้ำในขั้นรุนแรงได้
  • เป็นตะคริว (Muscle Cramps)  หากร่างกายอาจสูญเสียเกลือแร่ของเลือด (Electrolytes)อย่างรวดเร็วเกินไป  เช่น โซเดียมคลอไรด์ หรือโพแทสเซียม อาจนำไปสู่การเกิดภาวะไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte Imbalance) และปรากฏอาการต่าง ๆ ที่อาจรุนแรงมากขึ้น เช่น เป็นตะคริว
  • เกิดอาการช็อค อาการช็อคนับเป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนจากอาการขาดน้ำที่รุนแรงที่สุด เมื่อปริมาตรของเลือด (Blood Volume) ในร่างกายต่ำลง ย่อมส่งผลให้ความดันเลือดและจำนวนออกซิเจนในร่างกายต่ำลงด้วย หากไม่ได้รับการรักษาสามารถเกิดภาวะช็อคจากการขาดน้ำ (Hypovolemic Shock) ซึ่งทำให้เสียชีวิตได้ในเวลารวดเร็ว
  • อาการอื่น ๆ ของโรคยังรวมไปถึงหงุดหงิดง่าย เซื่องซึม ตาโหล ริมฝีปากแห้ง กระหายน้ำมาก ผิวเหี่ยวและแห้ง ปัสสาวะน้อยมาก ความดันโลหิตต่ำ และหัวใจเต้นผิดจังหวะ 
  • ในกรณีของเด็กที่เป็นโรคนี้ อาจมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) ร่วมด้วย โดยเกิดจากการสูญเสียน้ำในเกลือแร่ในร่างกายปริมาณมาก แต่ไม่สามารถรับประทานอาหารเข้าไปทดแทนได้ ส่งผลให้เด็กเกิดอาการซึม ชัก และหมดสติได้เช่นกัน

การรักษาอหิวาตกโรค

ผู้ป่วยอหิวาตกโรคควรได้รับการรักษาทันที เพราะผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงจากการเกิดภาวะขาดน้ำอย่างกะทันหัน วิธีรักษาอหิวาตกโรคมีรายละเอียดดังนี้

  • การให้รับประทานน้ำเกลือแร่  วิธีนี้จะช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำและเกลือแร่ในเลือดทดแทนจากที่เสียไป โดยแพทย์จะให้ผู้ป่วยรับประทานผงละลายเกลือแร่ (Oral Dehydration Salt: ORS) ที่ผสมในน้ำต้มสุก พบว่าผู้ป่วยที่เกิดภาวะขาดน้ำและไม่ได้รับการรักษาด้วยการรับประทานน้ำเกลือแร่ประมาณครึ่งหนึ่งเสียชีวิต ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตลดลงน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์เมื่อได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้
  • การให้สารน้ำทดแทน (Intravenouse Fluids) ในกรณีที่เกิดภาวะขาดน้ำและเกลือแร่มาก หรือไม่สามารถรับประทานน้ำเกลือแร่ได้เพียงพอ จำเป็นต้องให้สารน้ำทางน้ำเกลือเพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ รวมทั้งรักษาภาวะช็อคจากการขาดน้ำเฉียบพลันด้วย
  • การใช้ยาปฏิชีวนะ บางชนิดช่วยลดระยะเวลาในการเกิดอาการท้องร่วง หรืออาจมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการท้องร่วงได้ดี เช่น ยาดอกซีไซคลิน (Doxycycline) หรือยาอะซีโธรมัยซิน (Azithromycin)
  • การให้แร่ธาตุสังกะสี ได้ปรากฏงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าธาตุสังกะสีอาจลดและย่นระยะเวลาของอาการท้องร่วงที่เกิดจากอหิวาตกโรคในเด็กได้

ตรวจอหิวาตกโรค ที่ภูเก็ตตรวจได้ที่ไหน?

ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก ให้บริการที่ใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทั้งทีมงานที่มีความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและ การรักษา โดยคุณสามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง walk-in หรือนัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ

ช่องทางการติดต่อ

สาขาลากูน่า

  • ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาลากูน่า ตั้งอยู่ที่ 58/1 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83100
  • เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 21.00 น.
  • สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
  • เบอร์โทรติดต่อ 096 236 2449
  • แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/SXaeLrSU9Lx47YPH6
  • จองคิวตรวจออนไลน์ https://pmclaguna.youcanbook.me

สาขาในเมือง

  • ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ 41/7-41/8  ตำบลตลาดเหนือ  อำเภอเมืองภูเก็ต  จ.ภูเก็ต 83000 
  • เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 20.00 น.
  • สอบถามผ่าน Line id.   @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
  • เบอร์โทรติดต่อ  096 288 2449
  • แผนที่คลินิก   https://maps.app.goo.gl/yeU9qNArGg3qdwZw9 
  • จองคิวตรวจออนไลน์    https://pmctown.youcanbook.me

สาขาหอนาฬิกา

  • ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก  สาขาหอนาฬิกา   206/8 ถ. ภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
  • เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์        10.00- 20.00น. (ช่วงเเรก)
  • สอบถามผ่าน Line id.  @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
  • เบอร์โทรติดต่อ   096 696 2449
  • แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/svPvTabmmD1DHe9v9
  • จองคิวตรวจออนไลน์  https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me

Similar Posts

  • เนื้องอกในมดลูก

    เนื้องอกในมดลูก (Myoma Uteri หรือ Uterine Fibroid) เป็นโรคของกล้ามเนื้อมดลูก เกิดจากการเปลี่ยนแปลงเซลล์กล้ามเนื้อของมดลูกที่ผิดปกติ อาจเกิดในเนื้อมดลูกหรืออยู่ในโพรงมดลูก หรือโตเป็นก้อนนูนออกมาจากตัวมดลูก และผู้ป่วยอาจคลำพบได้ เนื้องอกมดลูกส่วนใหญ่ไม่ใช่เนื้อร้าย โดยจะพบว่ากลายเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็งไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ก้อนเนื้องอกอาจเกิดเป็น 1 ก้อนใหญ่ หรือก้อนเล็กๆ หลายก้อน และเมื่อก้อนเนื้องอกโตขึ้นจะไปกดทับอวัยวะบริเวณใกล้เคียงจนส่งผลแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา แต่ก็มีในบางรายที่เนื้องอกมดลูกไม่โตขึ้น และไม่ก่อให้เกิดอาการใดๆ การเปลี่ยนแปลงขนาดนี้มักขึ้นอยู่กับสภาวะฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ตั้งครรภ์หรือภาวะหมดประจำเดือน ซึ่งมักจะพบได้บ่อยในผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป หรือในวัยเจริญพันธุ์

  • ฝี คืออะไร?

    ฝี (Abscess, Boils หรือ Furuncles) คือ เนื้อเยื่อที่มีการติดเชื้อจนก่อให้เกิดลักษณะเป็นก้อน ส่วนใหญ่มักเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย ฝีมักมีลักษณะกลมภายในเป็นหนอง หรือบวมขึ้นกลัดหนองข้างใน (เป็นการอักเสบของต่อมไขมันและที่ขุมขนของผิวหนัง) หรือเป็นตุ่มหนองอักเสบสะสมใต้ผิวหนัง หนองมีกลิ่นเหม็น เจ็บปวดเมื่อสัมผัสโดน และก่อตัวขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาว เนื้อเยื่อที่ตายแล้ว และเชื้อโรค ซึ่งมักเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย

  • ทำไมการถูกลิงกัดจึงอันตรายกว่าที่คิด? วิธีรับมือ และการรักษาอย่างปลอดภัย ที่ภูเก็ต

    หลายคนมองว่าลิง เป็นสัตว์ที่น่ารักและใกล้ชิดกับผู้คน โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น อินเดีย บาหลี รวมถึงประเทศไทยในบางจังหวัดที่มีลิงอาศัยอยู่จำนวนมาก เช่น ลพบุรี และภูเก็ต แต่สิ่งที่หลายคนมักมองข้ามคือ ความเสี่ยงจากการถูกลิงกัด หรือ Monkey Bite ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่บาดแผลธรรมดา เพราะอาจนำไปสู่โรคติดเชื้อร้ายแรงที่คุกคามชีวิตได้

  • ปัญหาสุขภาพของผู้หญิงวัย 30 +

    ผู้หญิงที่เข้าวัย 30  ถือเป็นวัยที่กำลังได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ไม่ต่างจากตอนช่วงอายุ 20 เลยด้วยซ้ำ เป็นวัยที่ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ผ่านประสบการณ์ชีวิต ก็อาจลืมใส่ใจเรื่องการทานอาหาร การออกกำลังกาย พักผ่อนน้อย เครียดกับงาน ที่ทำให้สุขภาพอาจสวนทางกัน  หากไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยตัว ไม่ได้มีการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ อาจเสี่ยงโรคเหล่านี้ไม่รู้ตัว  เพราะเมื่อเข้าสู่วัย 30 ร่างกายเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ มวลกระดูกบางลง หรือร่างกายอาจเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง เป็นต้น 

  • โรคเกาต์

    โรคเกาต์ (Gout) คือ โรคข้ออักเสบจำเพาะที่เกิดเนื่องจากมีระดับกรดยูริก (Uric acid)  ในเลือดสูงกว่าปกติ และสะสมอยู่ในร่างกายเป็นเวลานานจนร่างกายขับออกทางไตไม่ทัน ทำให้มีการตกผลึกยูเรต (Monosodium Urate, MSU) ในข้อ ก่อให้เกิดอาการข้ออักเสบขึ้น หากมีการตกตะกอนในกระดูกอ่อน  เนื้อเยื่อต่างๆ รอบข้อ และใต้ผิวหนัง จะเกิดเป็นก้อนตะปุ่มตะป่ำตามตำแหน่งต่างๆ เรียกว่า โทฟัส (tophus) ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในข้อ ส่งผลให้มีอาการปวด บวม แดงบริเวณข้ออย่างเฉียบพลันรุนแรงอย่างรวดเร็วในเวลา 12 – 24 ชั่วโมง

  • ระบบภูมิคุ้มกันแต่กำเนิด คืออะไร?

    ระบบภูมิคุ้มกันแต่กำเนิด (Innate immune system) เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับระบบภูมิคุ้มกันประเภทนี้ ถูกถ่ายทอดจากพันธุกรรม คือ ภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นเองเพื่อป้องกันและสกัดเชื้อโรค ซึ่งเป็นกลไกที่ไม่จำเพาะเจาะจงกับเชื้อโรคชนิดใดชนิดหนึ่ง เช่น ผิวหนัง เยื่อบุ เยื่อเมือกต่าง ๆ ช่วยขัดขวางไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย หรือ กรดในกระเพาะอาหาร น้ำตา เหงื่อ ช่วยทำลายเชื้อโรคก่อนเข้าสู่ร่างกาย รวมถึงเซลล์เพชฌฆาต (Natural Killer Cells; NK Cells) ที่พร้อมต่อสู้กับเนื้องอก เซลล์มะเร็ง หรือการติดเชื้อไวรัสอย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดการติดเชื้อ  เพื่อทำให้ร่างกายเราปลอดภัยจากสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่น ซึ่งถือเป็นการป้องกันเชื้อโรคชั้นแรกของร่างกาย โดนภูมิคุ้มกันเเบบนี้มีมาตั้งเเต่เกิด โดยทารกที่มีอายุครรภ์ 5 สัปดาห์ จะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันได้เอง เเต่ยังสร้างได้น้อยมาก เนื่องจากเริ่มมีการเจริญของอวัยวะน้ำเหลือง