วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยภาพรวมยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ทั้งสถานการณ์ทั่วโลก และในประเทศไทย เพราะฉะนั้นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อ คือ วัคซีนโควิด-19  แต่ในปัจจุบันวัคซีนยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% ผู้เข้ารับการฉีดจึงยังอาจมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้อยู่ เพียงแต่วัคซีนสามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ลดโอกาสที่จะต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และลดการเสียชีวิตได้ โดยการฉีดวัคซีนโควิด-19 9 ได้รับการยืนยันแล้วว่าช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19  ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะต้องทำควบคู่ไปกับการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือให้บ่อย และเลี่ยงพื้นที่แออัด ดังนั้นก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19  ควรรู้และเข้าใจข้อมูลให้ถูกต้อง

วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 คืออะไร?

วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (COVID-19 vaccine) จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสนี้ขึ้นมา ช่วยป้องกันการติดเชื้อหากได้รับเชื้อในอนาคต แต่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งหลังฉีดวัคซีนร่างกายจึงจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาได้ การฉีดวัคซีนผู้รับวัคซีนยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เช่น ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่างทางสังคม เป็นต้น

วัคซีนอาจไม่สามารถป้องกันทุกคนที่ฉีดจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ แต่พบว่าสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ และยังไม่มีข้อมูลว่าเมื่อฉีดแล้วจะมีภูมิคุ้มกันโควิด-19 ได้นานเท่าไร รวมถึงไม่มีข้อมูลว่าผลการฉีดวัคซีนให้ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกันนั้น ทำให้ภูมิต่อไวรัสโควิด-19 มีผลลดลงกว่าในคนปกติหรือไม่

วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนโควิด

  • เพิ่มภูมิคุ้มกัน การฉีดวัคซีนช่วยกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโควิด
  • ป้องกันการป่วยหนัก และลดอัตราการรับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลานานๆ
  • ลดการติดเชื้อ โอกาสป่วยเป็นโรคน้อยลง และช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อได้
  • ลดอัตราการเสียชีวิต ประสิทธิผลของวัคซีนสามารถช่วยลดความรุนแรงหากติดเชื้อ และลดอัตราการเสียชีวิตได้
  • สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ การฉีดวัคซีนเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับสังคม

วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีกี่ชนิด อะไรบ้าง?

วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน มี 4 ชนิดด้วยกัน  ได้แก่

 1.วัคซีนชนิดสารพันธุกรรม

วัคซีนชนิดสารพันธุกรรม หรือ mRNA Vaccine ย่อมาจากmessenger Ribonucleic Acid วัคซีนกลุ่มนี้ ใช้เทคโนโลยีใหม่สังเคราะห์สารพันธุกรรมเอ็มอาร์เอ็นเอ (messenger RNA: mRNA) ที่เฉพาะเจาะจงกับเชื้อไวรัส เป็นวัคซีนที่มีส่วนที่กำกับการสร้างโปรตีนของไวรัส SAR-CoV-2 ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เมื่อฉีดวัคซีนแล้วร่างกายจะสร้างโปรตีนชนิดนั้นขึ้นมาและทำลาย mRNA ที่ฉีดเข้าไป จากนั้นร่างกายจะรับรู้ว่าโปรตีนที่สร้างขึ้นมานั้นเป็นสิ่งแปลกปลอมและจะสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้นมา  

วัคซีนที่มีใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ วัคซีนของบริษัท Pfizer และ Moderna  ซึ่งปัจจุบันวัคซีน mRNA ถือเป็นวัคซีนโควิด-19 ที่ทั่วโลกนิยมใช้มากที่สุด

2.วัคซีนชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ

วัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ Recombinant Viral vector vaccine เป็นวัคซีนที่ตัดต่อทางพันธุกรรมโดยการใช้สารทางพันธุกรรมของไวรัส SAR-CoV-2 ใส่เข้าไปในตัวไวรัสชนิดอื่นที่ไม่ก่อโรค (เรียกไวรัสนี้ว่า Viral Vector) โดยการนำไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนฤทธิ์ลงแล้ว หรือไม่สามารถแบ่งตัวได้อีกมาตัดแต่งพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นพาหะ แล้วฝากสารพันธุกรรมของโควิด-19 เข้าไป เมื่อฉีดวัคซีนเข้าไปในร่างกายแล้ว Viral Vector จะพาเอาสารพันธุกรรมนั้นเข้าไปในเซลล์ของเรา ทำให้เกิดการสร้างโปรตีนที่จำเพาะต่อเชื้อไวรัส SAR-CoV-2 ขึ้นมา จากนั้นร่างกายจะรับรู้ว่าโปรตีนที่สร้างขึ้นมานั้นเป็นสิ่งแปลกปลอมและจะสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้นมา ซึ่งเทคนิคนี้เป็นวิธีที่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี เนื่องจากเลียนแบบการติดเชื้อที่ใกล้เคียงธรรมชาติ 

วัคซีนชนิด Viral vector ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ AstraZeneca (แอสตร้าเซนเนก้า) ,บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน

3.วัคซีนที่ทําจากโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อ

วัคซีนที่ทำจากโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อ (Protein subunit vaccine) เป็นการผลิตวัคซีนมาจากโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อไวรัส SAR-CoV-2 ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยเป็นวัคซีนที่เลียนแบบสไปรท์​โปรตีน หรือหนามแหลมของไวรัส โดยอาศัยสื่งมีชีวิตอื่นสร้างขึ้นมา เช่น แบคทีเรีย ยีสต์ หรือพืช วัคซีนที่ผลิตโดยเทคโนโลยีนี้ ทั่วโลกมีความคุ้นเคยมานาน เพราะใช้ในการผลิตวัคซีนหลายชนิด เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เป็นต้น ผลิตโดยการ สร้างโปรตีนของเชื้อไวรัส ด้วยระบบ cell culture, yeast, baculovirus เป็นต้น แล้วนํามาผสมกับสารกระตุ้นภูมิ เมื่อฉีดวัคซีนเข้าสู่ร่างกายจะรับรู้ว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม และไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนตีบอดี หรือสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้นมา เพื่อต่อต้านโปรตีนสไปค์ของไวรัสโรคโควิด19   

วัคซีนที่มีใช้ในปัจจุบันคือ วัคซีนแบรนด์ Novavax ซึ่งผลิตจาก baculovirus และใช้ Matrix M เป็นตัวกระตุ้นภูมิ

 4.วัคซีนชนิดเชื้อตาย

วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated Virus Vaccine ) วัคซีนกลุ่มนี้ผลิตโดยนําไวรัสโรคโควิด19 มาเลี้ยงขยายให้ได้ปริมาณมาก แล้วมาทำให้ตายด้วยสารเคมีหรือความร้อน  เมื่อฉีดวัคซีนแล้วร่างกายจะรับรู้ว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม และจะสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพื่อต่อต้านไวรัส เสมือนได้รับเชื้อไวรัสโดยตรงแต่ไม่ทำให้เกิดโรค เพราะเชื้อตายแล้ว  เทคโนโลยีนี้เป็นวิธีที่ใช้กับวัคซีนตับอักเสบเอ โปลิโอชนิดฉีด จึงมีความคุ้นเคยในประสิทธิภาพและความปลอดภัยมานาน แต่เนื่องจากการเพาะเลี้ยงไวรัสต้องใช้ความระมัดระวังมาก ทําให้ผลิตได้ช้าและมีราคาแพง

วัคซีนที่มีใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ วัคซีนซิโนแวค (Sinovac)  และวัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm)

วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่นำมาใช้ในประเทศไทย 5 ยี่ห้อ ได้แก่

  • วัคซีนซิโนแวค (Sinovac)
  • วัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm)
  • วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca)
  • วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) 
  • วัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) 
อาการข้างเคียงวัคซีนโควิด-19

อาการข้างเคียงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

ผู้ที่รับวัคซีนอาจมีอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนหรือไม่มีก็ได้ อาการข้างเคียงที่อาจพบได้มีดังนี้

  • อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ ปวด บวม แดง คัน หรือช้ำบริเวณที่ฉีดยา อ่อนเพลีย และรู้สึกไม่สบายตัว ปวดศีรษะเล็กน้อย อาการคล้ายมีไข้  คลื่นไส้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อ
  • อาการที่พบได้ไม่บ่อยหรือพบได้น้อย เช่น มีไข้ มีก้อนที่บริเวณที่ฉีดยา เวียนศีรษะ มึนงง ใจสั่น ปวดท้อง อาเจียน ความอยากอาหารลดลง เหงื่อออกมากผิดปกติ ต่อมน้ำเหลืองโต อาการเหมือนเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ไอ เป็นต้น

ข้อควรระวังของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

สิ่งที่ต้องแจ้งบุคลากรทางการแพทย์ก่อนฉีดวัคซีน ได้แก่

  • มีประวัติการแพ้ยา วัคซีน อาหาร สารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ อย่างรุนแรงหรือจนเป็นอันตรายต่อชีวิต
  • มีประวัติแพ้รุนแรงต่อส่วนประกอบของวัคซีน หรือผู้ที่ฉีดเข็มแรกแล้วมีอาการแพ้รุนแรง เช่น หายใจติดขัด (Shortness of Breath) มีอาการบวมที่หน้า ลิ้น หรือในทางเดินหายใจ เป็นต้น
  • มีไข้เกิน 38 องศาเซลเซียสในวันที่นัดฉีดวัคซีน
  • มีรอยช้ำ หรือจ้ำเลือด หรือเลือดออกผิดปกติ หรือใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดอยู่ เช่น วาร์ฟาริน
  • ผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือใช้ยากดภูมิคุ้มกันอยู่ เช่น สเตียรอยด์ขนาดสูง ยารักษาโรคมะเร็ง หรือยากดภูมิคุ้มกัน
  • ตั้งครรภ์ หรือมีแผนจะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร

การปฏิบัติตัวหลังได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

ผู้ฉีดวัคซีนจะต้องอยู่เฝ้าสังเกตอาการที่สถานพยาบาลหลังฉีดวัคซีนอย่างน้อย 30 นาที โดยระหว่างนั้นและหลังจากนั้นให้สังเกตอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นตามข้างต้น และให้แจ้งอาการข้างเคียงทุกอย่างที่เกิดขึ้นแก่แพทย์ พยาบาล เภสัชกรด้วย เนื่องจากวัคซีนนี้เป็นวัคซีนชนิดใหม่อาจจะมีบางอาการที่ยังไม่พบตามข้างต้น หากมีอาการเล็กน้อย เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ต่ำ ๆ สามารถรับประทานยาพาราเซตามอลเพื่อบรรเทาอาการได้ หากมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะรุนแรง ให้มาพบแพทย์โดยทันที และให้เก็บบันทึกการฉีดวัคซีนไว้เป็นหลักฐานด้วย 

ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ภูเก็ตได้ที่ไหน?

ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก ให้บริการที่ใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทั้งทีมงานที่มีความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและ การรักษา โดยคุณสามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง walk-in หรือนัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ

ช่องทางการติดต่อ

สาขาลากูน่า

  • ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาลากูน่า ตั้งอยู่ที่ 58/1 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83100
  • เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 21.00 น.
  • สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
  • เบอร์โทรติดต่อ 096 236 2449
  • แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/SXaeLrSU9Lx47YPH6
  • จองคิวตรวจออนไลน์ https://pmclaguna.youcanbook.me

สาขาในเมือง

  • ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ 41/7-41/8  ตำบลตลาดเหนือ  อำเภอเมืองภูเก็ต  จ.ภูเก็ต 83000 
  • เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 20.00 น.
  • สอบถามผ่าน Line id.   @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
  • เบอร์โทรติดต่อ  096 288 2449
  • แผนที่คลินิก   https://maps.app.goo.gl/yeU9qNArGg3qdwZw9 
  • จองคิวตรวจออนไลน์    https://pmctown.youcanbook.me

สาขาหอนาฬิกา

  • ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก  สาขาหอนาฬิกา   206/8 ถ. ภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
  • เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์        10.00- 20.00น. (ช่วงเเรก)
  • สอบถามผ่าน Line id.  @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
  • เบอร์โทรติดต่อ   096 696 2449
  • แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/svPvTabmmD1DHe9v9
  • จองคิวตรวจออนไลน์  https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me

Similar Posts

  • วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี

    โรคไข้สมองอักเสบเจอี  เกิดจากเชื้อไวรัสเจอี (Japanese encephalitis virus, JEV)   โดยมียุงรำคาญ ชนิด Culex tritaeniorrhynchus ซึ่งหากินเวลากลางคืนเป็นพาหะนำโรค ซึ่งโรคนี้ทำให้เกิดการอักเสบของระบบสมองส่วนกลาง ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ เป็นผลให้มีอัตราการตายสูง และก่อให้เกิดความพิการทางสมองในผู้ที่รอดชีวิต ส่วนใหญ่มักจะเป็นในเด็ก ระยะฟักตัวของโรค 5-15 วัน ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสนี้ส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการ มีเพียงส่วนน้อยที่จะป่วยอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง อาเจียนพุ่ง มีอาการชักเกร็ง ไม่รู้สึกตัว  และอาจเสียชีวิตได้  แต่ถึงแม้ว่าผู้ป่วยจะรอดชีวิตก็มักมีความพิการทางสมองหลงเหลืออยู่ ซึ่งโรคนี้ไม่มียารักษาเฉพาะ แต่สามารถป้องกันได้ด้วยฉีดวัคซีนป้องกันโรคใช้สมองอักเสบเจอี ส่วนใหญ่มักจะได้รับวัคซีนตั้งแต่ยังเด็ก หลังจากได้รับคอร์สแรกแล้ว อาจต้องฉีดกระตุ้นทุก ๆ 4-5 ปี เพื่อให้ภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับสูงพอที่จะป้องกันโรคได้

  • วัคซีนป้องกันโรคท้องร่วง

    วัคซีนป้องกันโรคท้องร่วง หรือวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโรต้า ผลิตมาจากเชื้อไวรัสโรต้าที่ทำให้อ่อนฤทธิ์จนไม่ก่อโรค มีความปลอดภัยสูง และมีประสิทธิภาพดีในการป้องกันโรคจากเชื้อไวรัสโรต้าที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงในเด็กเล็ก โดยมักจะเกิดกับเด็กที่เริ่มเข้าสู่วัยอยากรู้อยากเห็น มักจะลองสัมผัสสิ่งรอบตัวและนำสิ่งของใส่ปาก จึงเป็นช่องทางหนึ่งที่นำไปสู่การติดเชื้อไวรัสโรต้า และทำให้เกิดท้องร่วงแบบเฉียบพลัน  ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้  โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5ปี

  • วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ

    ไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A)  เป็นโรคตับที่เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดเอ Hepatitis A virus (HAV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสกลุ่ม picornavirus ทำให้เกิดการอักเสบแบบเฉียบพลันของตับ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงตับอักเสบรุนแรงมาก โดยทั่วไปอาการจะหายเป็นปกติภายใน 2 เดือน 

    วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A Vaccine) ทำมาจากเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ที่ตายแล้ว เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย การฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอเป็นการป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ ที่ได้ผลเกือบ 100%  และภูมิคุ้มกันที่ได้จากวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ จะอยู่ติดตัวไปได้ตลอด  

  • สร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายโดยการฉีดวัคซีน

    การสร้างภูมิคุ้มกันโรคอาจทำได้อีกวิธีหนึ่ง โดยการให้ภูมิต้านทานสำเร็จ หรือที่แพทย์เรียกว่า อิมมูโนโกลบูลิน เข้าไปในร่างกายและสามารถต่อต้านเชื้อโรคได้ทันที ซึ่งวัคซีนไม่ได้หมายความถึงแต่การให้ภูมิคุ้มกันแก่เด็กเท่านั้น แต่ในบางประเภทของวัคซีนมีความมุ่งหมายให้ใช้ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ผู้ใหญ่ด้วย ได้แก่ วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอและบี วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส ไข้หวัดใหญ่ นิวโมคอคคัส และวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด เป็นต้น

  • วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส

    วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส (Varicella Vaccine/Chickenpox Vaccine) ผลิตจากเชื้อไวรัสมีชีวิตชื่อ วาริเซลลา ซอสเตอร์ (Varicella Zoster Virus: VZV) ซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส โดยนำมาทำให้อ่อนฤทธิ์ลง วัคซีนจะเข้าไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้เกิดการป้องกันโรคอีสุกอีใส

    ทั้งนี้ในประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสมีทั้งรูปแบบวัคซีนเดี่ยว (VZV) และวัคซีนรวม (MMRV) ซึ่งเป็นวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด โรคคางทูม โรคหัดเยอรมัน และโรคอีสุกอีใสในเข็มเดียวกัน

  • ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ไหนดีในภูเก็ต? แนะนำภูเก็ต เมดิคอล คลินิก

    ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ถือเป็นหนึ่งในโรคติดต่อที่สร้างปัญหาสุขภาพในระดับโลกทุกปี เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ตลอดเวลา ทำให้แม้แต่คนที่แข็งแรงก็มีโอกาสป่วยได้ง่าย หากไม่ได้รับการป้องกันที่ดี โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวอย่าง ภูเก็ต ที่มีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนจำนวนมาก ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อยิ่งสูง การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงเป็นวิธีที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพที่สุดในการลดความเสี่ยง

    คำถามสำคัญ คือ ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ไหนดีในภูเก็ต? ฉะนั้นเราจะพาคุณไปรู้จักข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ ความสำคัญของวัคซีน ประโยชน์ที่คุณจะได้รับ และเหตุผลที่ทำไม ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก จึงเป็นทางเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับการดูแลสุขภาพของคุณ และครอบครัว