ปัญหาการ ปวดปัสสาวะบ่อย อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งในบางคนอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะอักเสบ หรือมีอาการปวดท้องด้านขวาร่วมด้วย และบางคนอาจรู้สึกปวดฉี่ตลอดเวลากลางคืน ทำให้นอนไม่หลับ ซึ่งหากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจกระทบต่อสุขภาพโดยรวมได้
ปัสสาวะบ่อย คืออะไร?
ปัสสาวะบ่อย (Frequent Urination) เป็นอาการที่พบบ่อย อาจเกิดจากอาหารหรือน้ำที่กินมากไป ในขณะเดียวกันอาจเป็นอาการนำของโรคร้ายได้เช่นกัน ซึ่งเป็นภาวะความผิดปกติที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน หากกำลังเดินทางหรือทำงานอยู่ ก็ต้องรีบมาเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ แม้กระทั่งในตอนกลางคืนที่ไปรบกวนการนอนหลับ ซึ่งอาจเป็นอันตรายและก่อโรคร้ายในอนาคต สำหรับปกติทั่วไปแล้วเมื่อรู้สึกอยากขับถ่ายของเหลวแต่ติดภารกิจอยู่ ก็สามารถอั้นได้ แต่ผู้ป่วยภาวะนี้น้ำยังไม่เต็มกระเพาะปัสสาวะก็เกิดการบีบตัว เมื่อปลดเปลื้องของเสียจะมีปริมาณน้อยกว่าการปวด เสี่ยงที่กลั้นไม่อยู่ปล่อยราดออกมาได้
โดยสังเกตได้ง่ายๆ โดยปกติภายใน 24 ชั่วโมง คนเราจะปัสสาวะอย่างน้อย 6-8 ครั้ง กลางคืนเราจะปัสสาวะเพียง 1-2 ครั้งแต่ถ้าหากมากกว่านี้ โดยเฉพาะถ้าช่วงกลางคืนปัสสาวะมากมักบ่งชี้ถึงโรคบางอย่างมากกว่า ปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางวัน เพราะปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางวัน มักเกิดจากการดื่มน้ำมาก ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือคาเฟอีนมากเกินไป แต่ผู้ที่ปัสสาวะบ่อยมากในช่วงกลางคืน หรือมีลักษณะปัสสาวะผิดปกติ ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

สาเหตุปัสสาวะบ่อย
โดยปกติแล้ว เราจะปัสสาวะเฉลี่ย 6 – 8 ครั้งต่อวัน แต่หากมีการเข้าห้องน้ำที่บ่อยมากกว่านี้ นอกจากพฤติกรรมการดื่มน้ำที่มากเกินไป นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพบางอย่าง หรือเป็นอาการของโรคภายในบางชนิด ดังนี้
- ดื่มน้ำมากกว่าปกติ หรือดื่มน้ำมากเกินไป เป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นได้ยากในภาวะที่คนส่วนใหญ่มักจะดื่มน้ำไม่พอเสียมากกว่า แต่ประเด็นนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้หากคุณทานอาหารรสจัดจนทำให้กระหายน้ำบ่อย การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์รวมทั้งคาเฟอีนที่มากเกินไป การเกิดภาวะกระหายน้ำผิดปกติที่เกิดมาจากระบบประสาท และสาเหตุอื่นๆ ที่บังคับให้คุณรู้สึกกระหายน้ำมาก จนต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติไปด้วย โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนที่ต้องป้องกันภาวะขาดน้ำ บางรายรู้สึกคอแห้งบ่อย ต้องดื่มเรื่อย ๆ
- รับประทานผัก ผลไม้ ที่มีส่วนผสมของน้ำเยอะ เช่น แตงโม แคนตาลูป สาลี่ ชมพู่ แตงกวา และมะเขือเทศ เป็นต้น
- โรคเบาหวาน การเป็นโรคเบาหวาน ส่งผลให้น้ำตาลในเลือด (กลูโคส) มีปริมาณสูงกว่าปกติ จนร่างกายไม่สามารถควมคุมน้ำตาลกลูโคสในเลือด หรือไตกรองน้ำตาลกลับเข้าร่างกายได้ไม่หมด ร่างกายจึงพยายามปรับโดยกำจัดน้ำตาลกลูโคสส่วนเกินผ่านปัสสาวะ ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีอาการอ่อนเพลีย น้ำหนักลด รู้สึกคอแห้งบ่อยๆ จนต้องดื่มน้ำเรื่อยๆ และฉี่บ่อยๆ เพื่อขับออกมา จึงทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกติทั้งกลางวัน และกลางคืน
- โรคไตเรื้อรัง เมื่อไตทำงานผิดปกติ ทำให้ไตไม่สามารถดูดน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายได้ดี น้ำจะถูกขับออกจากร่างกายมากกว่าปกติ สังเกตได้ว่าผู้ป่วยโรคไตจะลุกขึ้นมาปัสสาวะบ่อยๆ ในตอนกลางคืน ซึ่งเป็นอาการอย่างหนึ่งของคนที่เป็นโรคไต ไตอักเสบ ไตเสื่อม ไตวาย หากสะสมเป็นระยะเวลานานๆ อาจเสี่ยงเป็นโรคไตเสื่อมเรื้อรัง
- โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ หรือโรคปัสสาวะอักเสบ เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเกิดขึ้นหลายสาเหตุอย่างเช่น กลั้นปัสสาวะนานๆ ดื่มน้ำน้อย และทำความสะอาดอวัยวะเพศไม่ดีพอ (เช่น การใช้กระดาษชำระเช็ดจากด้านหลังมาด้านหน้า) ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เป็นโรคเบาหวาน หรือเป็นผู้ป่วยที่ต้องใช้สายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน จนอักเสบและติดเชื้อได้ เป็นสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะบ่อยๆ ถึงแม้คุณจะทานยาแก้อักเสบแล้ว แต่ถ้าคุณยังมีพฤติกรรมกลั้นปัสสาวะ อาจเสี่ยงเป็นโรคปัสสาวะอักเสบอีก บางรายยังพบว่ามีนิ่วหรือก้อนเนื้องอก หรือความผิดปกติของอวัยวะข้างเคียง ในผู้หญิงอาจมีความผิดปกติของมดลูก
- ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน หรือ โอเอบี (overactive bladder : OAB) จะมีอาการปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวัน และกลางคืน ปวดปัสสาวะอย่างฉับพลันไม่สามารถรอได้ และปัสสาวะเล็ดราด โดยจะทำให้เรารู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยๆ แม้ว่าจะมีปัสสาวะอยู่ในกระเพาะปัสสาวะไม่มาก หรือปัสสาวะยังไม่ทันเต็มกระเพาะก็ปวดจนอยากจะปล่อยออกมา ความบ่อยของการปัสสาวะอยู่ที่ราวๆ ทุกชั่วโมง อาจรบกวนการนอนหลับพักผ่อนตอนกลางคืน เพราะต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำบ่อยๆ จนทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ แม้จะปัสสาวะเพียงเล็กน้อย แต่ก็ปวดมาก และกลั้นไม่ค่อยไหว
- นิ่ว/ก้อนเนื้อบริเวณกระเพาะปัสสาวะ เมื่อมีนิ่ว หรือมีก้อนเนื้อเกิดขึ้นในบริเวณกระเพาะปัสสาวะหรือใกล้เคียง อาจโตจนเข้าไปเบียดกระเพาะปัสสาวะจนทำปัสสาวะเต็มกระเพาะปัสสาวะเร็วขึ้น เลยทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้นกว่าปกติ เป็นเหตุผลคล้ายกันกับหญิงตั้งครรภ์ที่ขนาดมดลูกขยายจนมาเบียดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกติเช่นกัน
- การเสื่อมของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ ภาวะนี้ มักเกิดในผู้สูงวัย ซึ่งเกิดจากการการเสื่อมสภาพของกบ้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ยืดหยุ่นได้ไม่ดีเช่นเคย จึงเกิดการหดและรัดตัวบ่อย ทำให้ปวดปัสสาวะถี่ หรืออาจเกิดการเล็ดได้ เมื่อไอหรือจามแรงๆ
- โรคทางระบบสืบพันธ์ เกิดขึ้นได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ตัวอย่างเช่น การเกิดเนื้องอกขนาดใหญ่ภายในมดลูกหรือรังไข่ ทำให้เกิดการเบียดกระเพาะปัสสาวะ จึงจุของเหลวได้น้อยลง หรือเกิดการอักเสบของต่อมลูกหมากในผู้ชาย มักพบในเพศชายที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป ทำให้ผนังกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะหนาขึ้น เนื่องจากต้องบีบตัวแรงขึ้นเพื่อขับน้ำปัสสาวะให้ผ่านท่อแคบๆผู้ป่วยจะมีอาการต่างๆ เช่น ปัสสาวะติดขัด ปัสสาวะไม่สุด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือบางรายรุนแรงถึงขั้นมีเลือดปนออกมาในปัสสาวะ หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้
- โรคต่อมไร้ท่อผิดปกติ เช่นโรคเบาจืด และโรคคุชชิง
- โรคเบาจืด (Diabetes Insipidus) เป็นโรคที่ทำให้เกิดความผิดปกติของฮอร์โมนที่ควบคุมสารน้ำในร่างกาย ทำให้ร่างกายสูญเสียการควบคุมสมดุลของน้ำ มีผลให้ผู้ป่วยปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ ผู้ป่วยโรคเบาจืดมักปัสสาวะมากกว่า 3 ลิตรต่อวัน บางรายอาจปัสสาวะมากกว่า 10 ลิตรต่อวัน และปัสสาวะจะสีจางกว่าปกติ มีอาการปากแห้ง คอแห้งเนื่องจากการขาดน้ำ หรือมักมีอาการกระหายน้ำร่วมด้วย
- โรคคุชชิง (Cushing syndromes) มีสาเหตุมาจากการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากเกินปกติ ร่างกายจึงตอบสนองด้วยการปัสสาวะออกเพื่อให้ร่างกายสมดุล
- ยา หรือสารบางชนิด คือ การทานยา หรืออาหารบางชนิด อาจมีผลข้างเคียงทำให้ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติได้ เ เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาโรคเบาหวาน การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ คาเฟอีนในปริมาณมากๆ และโทษของการใช้ยาเกินปริมาณที่กำหนด มีผลทำให้ปัสสาวะบ่อยได้ และยังทำให้ไตทำงานหนัก เสี่ยงถึงเป็นโรคไตอีกด้วย
- การตั้งครรภ์ เนื่องจากมดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดการกดทับหรือการเบียดกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้มีขนาดเล็กลง จึงจุปัสสาวะได้น้อยลง ทำให้ผู้หญิงที่เข้าสู่ภาวะนี้ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าปกติ ซึ่งโดยปกติทารกในท้องจะเบียดทับกระเพาะปัสสาวะ ในช่วง 3 เดือนแรกคุณแม่จะปัสสาวะบ่อยๆ แต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลใจไป ไม่ได้เป็นอันตรายอย่างใด เพียงคุณแม่จะต้องดูแลสุขภาพมากขึ้น ไม่กลั้นปัสสาวะและดื่มน้ำในปริมาณที่พอดี ไม่ให้ร่างกายขาดน้ำหรือไตทำงานหนัก
- โรคทางระบบประสาท ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดในสมอง หรือมีเนื้องอกเกิดขึ้น ซึ่งอาจไปกระทบเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมหูรูดของกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ไม่สามารถควบคุมการปวดปัสสาวะได้
- โรคอ้วน เกิดจากการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว ทำให้แรงดันในกระเพาะปัสสาวะมากขึ้น ผู้ป่วยโรคนี้จึงเข้าห้องน้ำบ่อย แต่ภาวะนี้สามารถรักษาให้หายได้ โดยกาลดน้ำหนักลง
- ภาวะทางจิตใจ (psychogenic polydipsia) ทำให้ดื่มน้ำมากกว่าปกติจึงทำให้ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ หรือมีภาวะเครียดสะสม จากการทำงาน ครอบครัว หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าวมักเข้าห้องน้ำบ่อยในช่วงเวลากลางวัน

อาการปัสสาวะบ่อย
อาการปัสสาวะบ่อย หรืออาการปัสสาวะที่ผิดปกติ ที่มีภาวะอื่นร่วมด้วย ซึ่งควรไปพบแพทย์ ได้แก่
- มีไข้ร่วมด้วย
- การปวดฉี่กระปิดประปอย
- มีอาการเจ็บ ขัด แสบ อวัยวะเพศขณะปัสสาวะ
- ปัสสาวะลำบากกว่าปกติ หรือปวดฉี่ แต่ฉี่ไม่ออกต้องเบ่ง
- ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้
- ปัสสาวะมีเลือดปนออกมา รวมทั้งสารคัดหลั่งอื่น หรือตกขาว
- สีปัสสาวะมีลักษณะขาวขุ่น สีแดง สีน้ำตาลเข้มจัด
- ปวดท้องน้อยหรือมีก้อนอยู่บริเวณนั้น
- ปวดหลัง
- ตื่นมาปัสสาวะมากกว่า 2 ครั้งต่อคืน
การรักษาปัสสาวะบ่อย
- สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นโรค หรือภาวะผิดปกติแต่อย่างไร แล้วคุณมีอาการปัสสาวะบ่อยๆ หรือฉี่บ่อยที่เกิดจากการดื่มน้ำในปริมาณมาก ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ร่างกายจะขับน้ำออกมา เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ได้แก่
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนในปริมาณที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำปริมาณมากก่อนเข้านอน
- ออกกำลังกายเสริมสร้างความแข็งแรงในกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
- หากมีการเล็ดราดของปัสสาวะ ควรสวมใส่ชุดชั้นในหรือแผ่นซึมซับ
- หากเป็นการตั้งครรภ์เมื่อคลอดบุตรแล้วจะหายได้เอง
- หากพบความผิดปกติแพทย์จะรักษาตามอาการของโรค โดยตรวจหาสาเหตุของการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน และรับการรักษาอย่างเหมาะสม สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรเข้ารับการรักษา รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และไปพบแพทย์ตามการนัดหมาย
- หากรับประทานยาขับปัสสาวะแล้วพบว่ามีปัญหาปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน ควรปรึกษาแพทย์ ซึ่งแพทย์อาจแนะนำให้ปรับเวลารับประทานยาให้เร็วขึ้น
- อาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนส่งผลกระทบต่อวงจรการนอนหลับโดยตรง และหากไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ภาวะอดนอน (Sleep Deprivation) อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน และกระทบต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน การปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการปรับพฤติกรรมและรับการรักษาจะช่วยแก้ไขปัญหาด้านการนอนหลับและอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนได้
ติดต่อเรา
ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก ให้บริการที่ใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทั้งทีมงานที่มีความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและ การรักษา โดยคุณสามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง walk-in หรือนัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ
ช่องทางการติดต่อ
สาขาลากูน่า
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาลากูน่า ตั้งอยู่ที่ 58/1 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83100
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 21.00 น.
- สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ 096 236 2449
- แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/SXaeLrSU9Lx47YPH6
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://pmclaguna.youcanbook.me
สาขาในเมือง
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ 41/7-41/8 ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 20.00 น.
- สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ 096 288 2449
- แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/yeU9qNArGg3qdwZw9
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://pmctown.youcanbook.me
สาขาหอนาฬิกา
- ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาหอนาฬิกา 206/8 ถ. ภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
- เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 10.00- 20.00น. (ช่วงเเรก)
- สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ 096 696 2449
- แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/svPvTabmmD1DHe9v9
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me