การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ART

การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ART คืออะไร?

ยาต้านไวรัส (Antiretroviral Therapy หรือ ART) คือ การรักษาเอชไอวี ด้วยยาต้านไวรัสหลายชนิดรวมกัน เพื่อควบคุมเชื้อเอชไอวีในร่างกายไม่ให้เพิ่มจำนวน ซึ่งต้องกินให้ครบ ตรงเวลา และไม่สามารถหยุดยาได้เอง การรักษาด้วยยาต้านไวรัสจะได้ผลก็ต่อเมื่อกินยาครบและตรงเวลา และปฏิบัติตนตามคำสั่งของแพทย์

การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ART
  • ยาต้านไวรัส ART เป็นขั้นตอนการรักษาสำหรับบุคคลที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ด้วยการใช้ยาต้านเอชไอวี ในขั้นตอนการรักษานี้ จะใช้กลยุทธ์การใช้ยาแบบผสมผสาน ด้วยการจะใช้ยา 3 ตัวรวมกัน หรือมากกว่า ที่เรียกว่า Highly Active Antiretroviral Therapy (HAART) เป็นการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูงสุด  เพื่อลดปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวีในกระแสเลือดให้ได้มากที่สุดจนถึงระดับที่ไม่สามารถตรวจวัดได้ และให้คงระดับนั้นไว้ให้ได้นานที่สุด และเพื่อฟื้นฟูและรักษาสภาพการทำงานของระดับภูมิคุ้มกัน(ภูมิคุ้มกันต้านทานโรค) ของผู้ติเ้ชื้อเอชไอวีให้กลับคืนมาปกติ
  • ยาต้านไวรัส ART ยับยั้งการจำลองแบบของเชื้อเอชไอวี ในการรักษาด้วยยาต้านไวรัส การบำบัดแบบผสมผสานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยา และลดการพัฒนาของการดื้อยาของไวรัส 
  • ยาต้านไวรัส ART ช่วยลดอัตราการเสียชีวิต และอัตราการเจ็บป่วยของผู้ติดเชื้อเอชไอวี 
  • ยาต้านไวรัส ART สามารถช่วยลดโอกาสในการแพร่เชื้อเอชไอวีไปยังบุคคลอื่นที่มีสุขภาพดี เนื่องจากอัตราการแพร่พันธุ์ของเชื้อเอชไอวีถูกระงับ

แม้เชื้อเอชไอวีจะไม่หมดไปจากร่างกาย แต่ก็ถูกควบคุมจนมีจำนวนน้อยมากจนไม่สามารถทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกาย ผู้มีเชื้อเอชไอวีที่รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ART) สามารถมีสุขภาพดี และมีชีวิตที่ยืนยาวได้เหมือนคนทั่วไป

Same-Day ART คืออะไร?

Same-Day ART (Antiretroviral Therapy) คือ  กระบวนการรักษาด้วยยาต้านไวรัส สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ (Newly-diagnosed) และ ผู้ที่เคยทราบผลการติดเชื้อเอชไอวีมาก่อนแล้ว (Re-engaged) ที่ทราบผลเอชไอวี ภายในวันเดียวที่ตรวจพบ  หรือเริ่มรักษาด้วยยาต้านเอชไอวีภายในวันเดียวกับวันที่ตรวจ วินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวี หรือไม่เกิน 72 ชั่วโมงนับตั้งแต่วันที่ทราบผลเลือด ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีเข้าสู่กระบวนการรักษาเร็วที่สุด เป็นการบริการที่จัดขึ้นให้สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่มีความพร้อมในการเริ่มยา และไม่มีโรคติดเชื้อฉวยโอกาส ที่เป็นข้อห้ามในการเริ่มยาต้านเอชไอวี สามารถเข้าถึงการรักษา และกินยาต้านเอชไอวีโดยเร็วที่สุด นับจากที่ทราบว่ามีการติดเชื้อเอชไอวี

ประโยชน์ของ Same-Day ART 

  • การเริ่มยาอย่างรวดเร็วนั้นส่งผลดีต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี คือ ยาต้านไวรัสสามารถกดเชื้อเอชไอวีในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคติดเชื้อฉวยโอกาส
  • การทานยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ตัวยาไปกดระดับไวรัสเอชไอวีให้อยู่ในระดับที่ตรวจหาไม่เจอ และลดโอกาสในการแพร่เชื้อเอชไอวีไปยังผู้อื่น
  • ช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีสุขภาพที่แข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถทำงานได้ตามปกติและใช้ชีวิตในประจำวันได้เหมือนคนทั่วไป

Same-Day ART สามารถทำได้โดยผู้ติดเชื้อเอชไอวี เข้ารับการตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวีที่โรงพยาบาล หรือคลินิกที่ให้บริการ Same-Day ART หากผลการตรวจเป็นบวก แพทย์จะทำการปรึกษา และวางแผนการรักษากับผู้ป่วย จากนั้นผู้ป่วยจะได้รับยาต้านเอชไอวีกลับบ้านไปรับประทานทันที วิธีนี้เป็นแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี ช่วยให้ผู้ติดเชื้อสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติและไม่แพร่เชื้อต่อผู้อื่น

ผลข้างเคียงจากยาต้านไวรัส

ผลข้างเคียงของการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ขึ้นอยู่กับยาที่กำลังกิน มีดังนี้

  • คลื่นไส้
  • อาเจียน
  • ท้องเสีย
  • การเปลี่ยนแปลงอารมณ์ หรือภาวะซึมเศร้า
  • นอนหลับยาก
  • ปากแห้ง
  • น้ำหนักมากขึ้น, น้ำหนักเพิ่มขึ้น, อ้วนขึ้น
  • ปวดศีรษะ
  • ผื่น
  • อาการวิงเวียนศีรษะ
  • ความเหนื่อยล้า (อ่อนเพลีย)
  • ปวด หรือปวดบริเวณที่ฉีดยา
  • คอเลสเตอรอลสูงซึ่งอาจนำไปสู่โรคหัวใจได้

ผลข้างเคียงหลายอย่างอาจเกิดขึ้นชั่วคราว หรือเพียงไม่กี่สัปดาห์จนกว่าร่างกาจะคุ้นเคยกับยาต้านไวรัส หรืออาจผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น คอเลสเตอรอลสูงเป็นผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว

ควรปฏิบัติตามการรักษาที่แพทย์แนะนำ

  • เพื่อให้การรักษาได้ผลดี ต้องกินยาให้ครบ ถูกต้องตาม ที่แพทย์กำหนด ดังนี้
  • กินยาตรงเวลา ทุกมื้อ และทุกวัน
  • กินยาให้ถูกต้องครบตามจำานวน
  • อย่าเปลี่ยนยาด้วยตนเอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์ ถ้าพบว่าปฏิบัติตามแผนการรักษาได้ยาก ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อค้นหาแนวทางการรักษาใหม่ที่เหมาะสม
  • หากจะใช้ยาอื่นนอกเหนือที่แพทย์สั่ง ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนทุกครั้ง
  • ควรกินยาทุกชนิดอย่างสม่ำเสมอ ห้ามลืมกินยา หรือหยุดยาระยะหนึ่งแล้วมากินต่อ ก็อาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยา การรักษาจะยิ่งยากมากขึ้น

ตรวจหาเชื้อเอชไอวี ที่ภูเก็ตตรวจได้ที่ไหน?

ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก ให้บริการที่ใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทั้งทีมงานที่มีความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและ การรักษา โดยคุณสามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง walk-in หรือนัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ

ช่องทางการติดต่อ

สาขาลากูน่า

  • ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาลากูน่า ตั้งอยู่ที่ 58/1 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83100
  • เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 21.00 น.
  • สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
  • เบอร์โทรติดต่อ 096 236 2449
  • แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/SXaeLrSU9Lx47YPH6
  • จองคิวตรวจออนไลน์ https://pmclaguna.youcanbook.me

สาขาในเมือง

  • ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ 41/7-41/8  ตำบลตลาดเหนือ  อำเภอเมืองภูเก็ต  จ.ภูเก็ต 83000 
  • เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 20.00 น.
  • สอบถามผ่าน Line id.   @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
  • เบอร์โทรติดต่อ  096 228 2449
  • แผนที่คลินิก   https://maps.app.goo.gl/yeU9qNArGg3qdwZw9 
  • จองคิวตรวจออนไลน์    https://pmctown.youcanbook.me

สาขาหอนาฬิกา

  • ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก  สาขาหอนาฬิกา   206/8 ถ. ภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
  • เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์        10.00- 20.00น. (ช่วงเเรก)
  • สอบถามผ่าน Line id.  @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
  • เบอร์โทรติดต่อ   096 696 2449
  • แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/svPvTabmmD1DHe9v9
  • จองคิวตรวจออนไลน์  https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me

Similar Posts

  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เรื่องที่ผู้ชายควรรู้

    โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นโรคใกล้ตัว ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัยมีโอกาสติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูง เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เริม ซิฟิลิส หูดหงอนไก่ หรือติดเชื้อเอชไอวีจนพัฒนาไปสู่เอดส์ เพราะผู้ติดเชื้อบางรายก็ไม่แสดงอาการของโรคให้เห็นชัดเจน การป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์จึงเป็นเรื่องยาก และยังสามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้อีกด้วย ซึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางโรคอาจรักษาให้หายได้ แต่บางโรคก็รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต  ดังนั้นการใช้ถุงยางอนามัยอาจเป็นทางเลือกที่ดีในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ แม้ไม่สามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม เนื่องจากเชื้ออาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะบริเวณอื่นได้ขณะทำกิจกรรมทางเพศ เช่น ทางปาก หรือทางทวารหนัก

  • การตรวจเอชไอวี เพื่อประโยชน์ทางสุขภาพ ได้ที่ ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก

    การตรวจเอชไอวี เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการจะรู้สถานะของตนเองว่าติดเชื้อเอชไอวี หรือไม่นั้น จะต้องทำการตรวจหาเชื้อเอชไอวี เพียงวิธีอย่างเดียว  ซึ่งต้องทำการตรวจเอชไอวี ถ้ารู้ว่าตนเองเคยมีโอกาสติดเชื้อ หรือเคยมีพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ได้รับเชื้อเอชไอวีมา ควรเข้ารับการตรวจเอชไอวีโดยเร็วที่สุด อย่านิ่งนอนใจ เพราะหากมีการติดเชื้อเอชไอวี อาจทำให้เชื้อเอชไอวีมีความรุนแรงมากขึ้น และจะกลายเป็นโรคเอดส์ ที่ทำการรักษาได้ยาก หรือไม่ทันการณ์แล้วนั้น และถ้าหากพบเชื้อก็จะได้วางแผนการรักษา และดูแลตัวเองได้ทันก่อนที่อาการจะลุกลามมากขึ้น

  • ชายรักชายมีเพศสัมพันธ์อย่างไรให้ปลอดภัย

    การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยในชายรักชาย นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แล้ว ยังอาจช่วยป้องกันการแพร่เชื้อไปยังคู่นอนของตัวเองได้ด้วย เพราะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางโรค  หากมีการติดเชื้อในระยะเริ่มต้น อาจยังไม่แสดงอาการ จึงทำให้ชายรักชายแพร่เชื้อไปให้คู่นอนของตัวเองได้โดยไม่รู้ตัว  เนื่องมาจากการมีเพศสัมพันธ์ ของชาย รักชาย  นั้นมีโอกาสเสี่ยงมากกว่า เนื่องจากทวารหนักไม่ใช่ช่องทางธรรมชาติเหมือนกับช่องคลอดที่มีความยืดหยุ่น กว่า เมื่อมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงอาจทำให้ทวารหนักฉีกขาดหรือมีบาดแผล จึงเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าได้ จนเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน หนองในเทียม เอชไอวี ซิฟิลิส ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

  • โรคติดเชื้อฉวยโอกาส ในผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี

    โรคติดเชื้อฉวยโอกาส (Opportunistic Infectione)  คือ ภาวะสุขภาพของผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี  ที่อยู่ในระยะ โรคเอดส์  ซึ่งระยะนี้ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะถูกทำลายลงไปมาก ทำให้เป็นโรคต่างๆ ได้ง่าย  ไม่ว่าเกิดจากเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย หรือปรสิต ที่เรียกรวม ๆ ว่า โรคติดเชื้อฉวยโอกาส จนเกิดเป็นโรคต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง เมื่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง เชื้อโรคเหล่านี้จึงเข้าในร่างกายก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยโรคเอดส์ อาจป่วยด้วยโรคติดเชื้อฉวยโอกาส ได้พร้อมกันมากกว่า 1 โรค

  • ตรวจเอชไอวีแบบ NAT ที่ภูเก็ต

    การตรวจแบบ NAT (Nucleic Acid Testing) 

    วิธีการนี้ถือว่าเป็นวิธีที่มีความรวดเร็ว ทำให้ ผู้ที่ไปได้รับความเสี่ยง หรือผู้ที่มีความกังวลใจ ต่อการได้รับเชื้อมา สามารถรู้ผล ได้อย่างรวดเร็ว กว่าการตรวจแบบ วิธีอื่น นอกจากจะสามารถ รู้ผล ได้อย่างรวดเร็วแล้ว ในการตรวจแล้ว ยังมีความปลอดภัย แม่นยำอีกด้วย และใช้ระยะเวลา ในการรอ เพียงแค่ 2-12 สัปดาห์ หลังได้รับ ความเสี่ยงมา และจะรู้ผลตรวจได้ภายใน 3 วัน

  • ประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตัวเอง

    หลายคนมักเกิดความสงสัยว่าตัวเองอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีได้หรือไม่ ทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวลไปต่าง ๆ นานา ฉะนั้นการประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อเอชไอวีเบื้องต้นด้วยตัวเองก่อนว่ามีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด ก่อนที่จะไปปรึกษาแพทย์ หรือทำการตรวจเลือดเพื่อความสบายใจ และความปลอดภัย เพื่อคลายความเครียด และวิตกกังวล และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยต่อไปได้