ตรวจเอชไอวีแบบ NAT ที่ภูเก็ต

การตรวจเอชไอวี ปัจจุบันมีอยู่ 3 วิธีหลักๆ ที่นิยม คือ

  • การตรวจแบบ Anti-HIV เป็นการ ตรวจหาภูมิต้านทาน ต่อเชื้อเอชไอวี โดยจะสามารถตรวจได้เมื่อได้รับความเสี่ยงมาประมาณอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ขึ้นไป หลังจากได้รับความเสี่ยงมา และวิธีการตรวจนี้สามารถรู้ผลตรวจได้ภายในเวลาเพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น
  • การตรวจแบบ NAT เป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวี จึงมีความไวกว่าการจรวจแบบ Anti-HIV สามารถทราบผลภายใน 3 วันหลังตรวจ สามารถตรวจได้เมื่อได้รับความเสี่ยงมาประมาณอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ให้ผลชัดเจนกว่าการตรวจแบบ Anti HIV
  • การตรวจแบบ Rapid HIV Test เป็นชุดตรวจชนิดเร็ว หรือเรียกได้ว่าตรวจแล้วรู้ผลเลย โดยรอผลเพียง 20 นาที เป็นเพียงการตรวจคัดกรอง เอชไอวีเท่านั้น หากผลตรวจเป็นบวก คือ มีการพบเชื้อเอชไอวี ต้องทำการตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าติดเชื้อเอชไอวีจริงหรือไม่ ส่วนใหญ่ตามคลินิก หรือโรงพยาบาลจะนิยมใช้ตรวจคัดกรองผู้ป่วยก่อน โดยคัดผู้ป่วยที่มีโอกาสพบเชื้อ กับไม่พบเชื้ออกจากกัน เพราะว่าการตรวจคัดกรองนี้รวดเร็ว ทำให้ไม่เสียเวลาทั้งแพทย์ และผู้ป่วยเอง
ตรวจเอชไอวีแบบ NAT ที่ ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก

การตรวจเอชไอวี แบบ NAT (Nucleic Acid Testing) 

วิธีการนี้ถือว่าเป็นวิธีที่มีความรวดเร็ว ทำให้ ผู้ที่ไปได้รับความเสี่ยง หรือผู้ที่มีความกังวลใจ ต่อการได้รับเชื้อมา สามารถรู้ผล ได้อย่างรวดเร็ว กว่าการตรวจแบบ วิธีอื่น นอกจากจะสามารถ รู้ผล ได้อย่างรวดเร็วแล้ว ในการตรวจแล้ว ยังมีความปลอดภัย แม่นยำอีกด้วย และใช้ระยะเวลา ในการรอ เพียงแค่ 2-12 สัปดาห์ หลังได้รับ ความเสี่ยงมา และจะรู้ผลตรวจได้ภายใน 3 วัน 

อย่างไรก็ตาม วิธีการตรวจหาเชื้อเอชไอวี ที่ผ่านมา คือ การตรวจหาแอนติบอดี ซึ่งการตรวจ หาการสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อเชื้อ โดยที่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ในการตรวจหาเชื้อไวรัส และจึงสร้าง ภูมิคุ้มกันต่อสู้ กับเชื้อเอชไอวี ซึ่งช่วงระยะเวลานี้ เรียกว่า ระยะฟักตัว (Window Period) ด้วยสาเหตุนี้ จึงทำ ให้วิธีการตรวจแบบ NAT สามารถ ช่วยลดระยะเวลา ของการฟักตัว ทำให้รู้ผล ได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ ไม่จำเป็น ต้องรอ

ตรวจเอชไอวีแบบ NAT ที่ภูเก็ตตรวจได้ที่ไหน?

ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก ให้บริการที่ใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทั้งทีมงานที่มีความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและ การรักษา โดยคุณสามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง walk-in หรือนัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ

ช่องทางการติดต่อ

สาขาลากูน่า

  • ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาลากูน่า ตั้งอยู่ที่ 58/1 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83100
  • เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 21.00 น.
  • สอบถามผ่าน Line id. @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
  • เบอร์โทรติดต่อ 096 236 2449
  • แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/SXaeLrSU9Lx47YPH6
  • จองคิวตรวจออนไลน์ https://pmclaguna.youcanbook.me

สาขาในเมือง

  • ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก สาขาเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ 41/7-41/8  ตำบลตลาดเหนือ  อำเภอเมืองภูเก็ต  จ.ภูเก็ต 83000 
  • เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 20.00 น.
  • สอบถามผ่าน Line id.   @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
  • เบอร์โทรติดต่อ  096 288 2449
  • แผนที่คลินิก   https://maps.app.goo.gl/yeU9qNArGg3qdwZw9 
  • จองคิวตรวจออนไลน์    https://pmctown.youcanbook.me

สาขาหอนาฬิกา

  • ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก  สาขาหอนาฬิกา   206/8 ถ. ภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
  • เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์        10.00- 20.00น. (ช่วงเเรก)
  • สอบถามผ่าน Line id.  @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ)
  • เบอร์โทรติดต่อ   096 696 2449
  • แผนที่คลินิก https://maps.app.goo.gl/svPvTabmmD1DHe9v9
  • จองคิวตรวจออนไลน์  https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me

Similar Posts

  • ระยะฟักตัว (Window period) คืออะไร?

    ระยะฟักตัว (Window period)  คือ ช่วงเวลาที่อาจได้รับการติดเชื้อ เอชไอวี แล้ว แต่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ยังไม่ขึ้นถึงระดับที่จะสามารถตรวจพบเชื้อได้ หรือยังตรวจไม่พบ ดังนั้นหากเข้ารับการตรวจเอชไอวี ในช่วงระยะฟักตัว จะได้ผลเป็นลบ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว คุณอาจติดเชื้อเอชไอวี แล้วก็ได้  ทำให้ผลที่ออกมานี้จะทำให้เข้าใจผิดคิดว่าตนเองไม่ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งระยะที่ภูมิคุ้มกันของเราจะมีปฏิกิริยาต่อเชื้อเอชไอวีประมาณ 2-3 สัปดาห์ขึ้นไป เราจึงจำเป็นต้องรอระยะเวลาก่อน

  • Antiretrovirals : ARV ยาต้านไวรัสหรือยารักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี

    ยาต้านไวรัสเอชไอวี มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อเอชไอวีในกระแสเลือด เมื่อจำนวนเชื้อลดลง  ร่างกายก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น   โอกาสในการเจ็บป่วยด้วยโรคฉวยโอกาสจึงลดลง เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยส่วนมากสามารถทำงานและดำรงชีวิตตามปกติได้  และการเสียชีวิตจากโรคฉวยโอกาสก็เป็นไปได้น้อย

    การกินยาต้านฯ มีข้อที่ต้องคำนึงอยู่หลายประการ เมื่อแพทย์วินิจฉัยและให้การรักษา  ผู้ติดเชื้อจะต้องประเมินว่าตนเองมีความพร้อมในการรับยาแล้วหรือยัง   เพราะการกินยาต้านฯ ต้องกินให้ถูกต้อง ตรงเวลา และต่อเนื่องตลอดชีวิต เนื่องจากยาไม่สามารถกำจัดเชื้อเอชไอวีให้หมดไปจากร่างกายได้  ยาจะช่วยควบคุมจำนวนเชื้อให้มีน้อยที่สุด การกินยาตรงเวลา และต่อเนื่อง เพื่อไม่เปิดโอกาสให้เชื้อดื้อยาได้ง่าย และสามารถควบคุมเชื้อไว้ได้ตลอดเวลา

    ยาต้านไวรัสเอชไอวี มีด้วยกันหลายชนิด ออกฤทธิ์แตกต่างกันไป การเลือกใช้ยา แพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสม สำหรับผู้ป่วยแต่ละราย   การรักษาที่จะให้ผลดี และช่วยลดปัญหาเชื้อดื้อยาได้ จะใช้ยา 3 ตัวรวมกัน หรือมากกว่า ที่เรียกว่า Highly Active Antiretroviral Therapy (HAART)

  • หญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อเอชไอวีต้องทำอย่างไร?

    การติดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อเอชไอวีในเด็ก กรณีไม่ได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวีระหว่างตั้งครรภ์ มีโอกาสถ่ายทอดเชื้อให้ทารกสูงมาก ซึ่งการติดเชื้อเอชไอวีไม่เพิ่มความพิการแต่กำเนิดของทารกในครรภ์ แต่การติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มอัตราการแท้งบุตร ทารกโตช้าในครรภ์ การคลอดก่อนกำหนด ทารกน้ำหนักน้อย ทารกตายตอนคลอด และตายปริกำเนิด

    แต่หากหญิงตั้งครรภ์ได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวี ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ที่เหมาะสม จะเป็นการเพิ่มภูมิต้านทาน สามารถลดจำนวนเชื้อไวรัส และลดอัตราการถ่ายทอดเชื้อจไวรัสจากแม่สู่ทารก ฉะนั้นการดูแลหญิงตั้งครรภ์ เพื่อวางแผนการให้ยาต้านไวรัส วางแผนการคลอดเพื่อลดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ทารกในครภ์ และรวมถึงการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องหลังการคลอดบุตรทั้งแม่ และทารกด้วย

  • ใช้ชีวิตร่วมกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีอย่างไร ? ให้ปลอดภัย

    ผู้ที่อาศัยอยู่กับผู้ติดเชื้อเอชไอวี หรือผู้ป่วยโรคเอดส์ โดยเฉพาะคนในครอบครัวนั้น เป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะนอกจากคอยให้กำลังใจแล้ว ยังต้องดูแลผู้ป่วยให้มีพลานามัยสมบูรณ์ และสร้างสิ่งแวดล้อมบริเวณที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับผู้ป่วย เชื้อเอชไอวีติดต่อได้ผ่านทางเลือด การมีเพศสัมพันธ์ และจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ แต่ผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีก็ควรต้องป้องกันตนเองจากการติดเชื้อด้วยเช่นกัน

  • ถาม-ตอบ เกี่ยวกับเชื้อเอชไอวี/โรคเอดส์

    คำถาม : ทำไมต้องไปตรวจหาเชื้อเอชไอวี?

    การทราบสถานะการติดเชื้อเอชไอวีของตัวเองเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะดูแลสุขภาพของตัวเองและคู่ของตัวเอง เพราะถ้ารู้ว่าติดเชื้อเอชไอวีเร็วเท่าใด ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้มีชีวิตที่ยืนยาว และมีสุขภาพที่ดีได้มากยิ่งขึ้นด้วย ทั้งนี้ยังมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี จำนวนมากที่ยังไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อเอชไอวี อาจจะแพร่เชื้อไปให้ผู้อื่นโดยไม่ตั้งใจ ดังนั้น หากมีเพศสัมพันธ์ หรือมีความพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ก็ควรไปตรวจหาเชื้อเอชไอวี

  • ทำไมตรวจหาเชื้อเอชไอวีไม่เจอ เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร?

    การตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวี  ถ้าผลตรวจออกมาเป็นลบ หรือไม่เจอเชื้อ ก็เป็นการได้เริ่มต้นป้องกันตัวเองอย่างจริงจัง หรือถ้าตรวจเจอเชื้อ ก็ถือว่าเป็นการรู้ตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อได้เข้าสู่กระบวนการรักษาแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ป่วยหรือ เสียชีวิตจากโรคเอดส์ อีกทั้งสามารถป้องกันคนที่เรารักและคนอื่นๆ ไม่ให้ติดเชื้อเอชไอวีจากเราได้